เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ทีฆายุโกโหตุ มหาราชา |
|
จากวันเสด็จถวัลยราชสมบัติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศึกราช ๒๔๙๘ |
|
ช่วงต้นรัชสมัยระหว่างพุทธศักราช ๒๔๙๓ – ๒๕๒๐ พระราชกรณียกิจเป็นงานแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องกระทำให้ลุล่วงเพื่อบังเกิดผลสำเร็จโดยเร็วเสมือนเป็นปัญหาวิกฤติที่เร่งด่วน ส่วนนอกเหนือกว่านั้นเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว เพราะต้องใช้เวลาในการศึกษา ทดลอง เก็บสถิติข้อมูลทดสอบ กว่าจะแน่ในพระราชหฤทัยแล้วจึงทรงรังสรรค์ให้เป็นแบบแผน ทุกเรื่องล้วนทรงสัมผัสปัญหาและติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งสิ้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรทั่วทุกหัวระแหงด้วยพระราชอุตสาหะแรงกล้า ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ไม่ว่าวิกฤติการณ์ใด เช่น อุบัติภัยกะทันหัน ได้แก่ อุทกภัย วาตภัยหรืออัคคีภัย อันนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและความหายนะในทรัพย์สินของชุมชน ตลอดทั้งโรคภัยไข้เจ็บอันเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ที่บั่นทอนความสงบสุขของบ้านเมือง เช่น โรคเรื้อน โปลิโอ อหิวาตกโรค และวัณโรคหรือภัยที่เกิดจากความคิดแตกต่างก่อให้เกิดผู้ก่อการร้ายจากลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ครอบคลุมพื้นที่ชายแดนกว้างขวาง | |
พระประมุขและผู้แทนพระองค์พระประมุขต่างประเทศถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในงานฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต 12 มิถุนายน 2549 ที่มา : สายไหม จบกลศึก. 2554,11 |
|
ทรงยื่นพระหัตถ์กอบเกื้อพสกนิกรจริงจังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์แก้ไข ทรงชักชวนประชาชนที่ไม่เดือดร้อนร่วมกันสร้างกุศลโดยเสด็จพระราชกุศล อันเป็นการบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎรอย่างทันท่วงที เพราะภัยแต่ละประเภท ราษฎรที่เดือนร้อนจำนวนมากย่อมได้รับทุกขเวทนา เป็นการแสดงให้เห็นน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงเล็งเห็นความเดือนร้อนจากภัยพิบัตินานัปการของราษฎรอย่างถ่องแท้ สิ่งที่พระราชทาน คือ อุปกรณ์ในการดำรงชีวิตทั้งระยะสั้นและระยะยาว จนกว่าจะสามารถตั้งตัวเองได้ มีพระราชดำรัสตรัสถามราษฎรอย่างใกล้ชิด ทรงตรากตรำพระวรกายเสด็จไปเพื่อบำรุงขวัญอาณาราษฎรให้ผ่อนคลาย |
|