การอัญเชิญเจ้า
การอัญเชิญเจ้า และดวงวิญญาณบรรพบุรุษมารับอาหารที่ไหว้ในบ้านเรือน ตามที่กล่าวมานั้น เกิดจากลัทธิศรัทธานิยมมาแต่โบราณ ว่าหากลูก ๆ หลาน ๆ เลี้ยงดีพลีสุข เป็นประจำทุกปี ก็จะได้รับพรจากเจ้าและจากวิญญาณบรรพบุรุษ ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ลูกหลานจะทำมาหากินทางธุรกิจใด ๆ จะมั่งมีศรีสุขและคนจีนที่พบกันในวันตรุษจีน ก็จะพูดอวยพรให้กันและกันว่า
“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้”
อาหารมงคล : อาหารที่ปรุงจากเส้นหมี่ยาว ๆ อย่างนี้ คนจีนถือกันว่าเมื่อทำไหว้เจ้าตามเทศกาลตรุษ-สารท หรือเลี้ยงแขก จะทำให้ครอบครัวมีอายุยั่งยืนยาวนาน
ซินเจียยู่อี่ แปลว่า ปีใหม่สม ความปรารถนาทุกอย่างที่ดีคิดอะไรก็สมหวัง
ซินนี้ฮวดไช้ แปลว่า ปีใหม่ ร่ำรวย โชคดี
การถือ วันตรุษจีนในวันนั้นทั้งวัน คนจีนจะถือกันว่า วันนี้ห้ามซักเสื้อผ้า ห้ามจับไม้กวาดบ้านเรือน เพราะเกรงว่าจะกวาดเอาเงินทองออกไปจากบ้าน และสิ่งไม่ดีไม่งามจะตามเข้ามาอยู่แทน
ของขวัญปีใหม่
ตอนค่ำของวันไหว้ ผู้เป็นพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัว จะมีการแจกของขวัญปีใหม่ ตามภาษาจีนเรียกว่า “แต๊ะเอีย” ถ้าลูกยังเล็กพ่อแม่ต้องให้แต๊ะเอียแก่ลูก ถ้าพ่อแม่แก่แล้ว ลูกต้องให้แต๊ะเอียแก่พ่อแม่ และผู้มีพระคุณ
ของขวัญที่แจกให้ บางครั้งอาจจะเป็นสิ่งของรูปพรรณ เช่น แก้ว แหวน ทอง หรือเงินสด (ส่วนมากเป็นเงินสดมากกว่า)
แต่อย่างไรก็ดี การให้ก็ย่อมขึ้นกับฐานะการทำมาหาได้จากธุรกิจในปีนั้น ๆ หากปีใดครอบครัวมีกำไรดี ได้เงินเข้ามามากหรือเศรษฐกิจไม่ดีนัก ก็มักจะให้ตามฐานะขึ้นลงดังกล่าวแล้ว ให้น้อยไม่ว่า แต่ต้องให้ ถือว่าเป็นสิริมงคล
อนึ่ง เจ้าบ้านจะต้องปฏิบัติ ในวันรุ่งขึ้น คือ วันถือ (ซิวอิด) จะมีพิธีไหว้เจ้าอีก ไหว้แต่สัม 4 ลูก และขนมจับกิ้มทึ้งและน้ำชาต่อมาวันที่ 4 ของตรุษจีนเป็นวันเปิดงาน ก็มีพิธีไหว้ด้วย ไหว้แต่สัมและขนมจับกิ้มทึ้ง และน้ำชา
วันเที่ยว
เมื้อวันไหว้เจ้าผ่านไป ก็จะถึง วันถือ คือวันรุ่งขึ้น (ชิวอิด) แต่หลังจากวันนี้ก็จะเป็น วันเที่ยว ลูก ๆ หลาน ๆ มักจะไปเที่ยวกันตามต่างจังหวัดที่ไม่เคยไป คนมีฐานะดีก็ไปทัศนาจรถึงต่างประเทศเป็นการพักผ่อน เพราะปีหนี่งมีตรุษจีนหนเดียว จึงอาศัยวันนี้เป็นวันพักสมอง แสวงหาความสดชื่น สนุกสนานให้กับชีวิตเป็นการคลายเครียดไปด้วย ก่อนจะกลับมาประกอบธุรกิจอีกต่อไป
