3 วันก่อนวันงาน
3 วันก่อนวันงาน เจ้าสาวสมัยเก่าจะต้องมังหมิ่ง เพื่อกันขนที่รกใบหน้าออก ถือเป็นเคล็ดลับเสริมความงาม
แบบโบราณอย่างหนึ่ง 1วัน ก่อนวันงาน
ในคืนก่อนวันงาน ก็จะอาบน้ำใบทับทิมและใบเซียงเช่า เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยชำระล้างสิ่งชั่วร้ายให้หมดไป จากนั้นจะสวมชุดใหม่และนั่งลงให้หญิงที่มีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์พูนสุข หวีผมให้พร้อมกับกล่าวอวยพรไปด้วย
เมื่อถึงวันแต่งงาน
เช้าวันส่งตัวเจ้าบ่าวจะ ส่งปิ่นทองคืนมาให้เจ้าสาวใช้ประดับผม ปิ่นทองนี้ภาษาจีนเรียก ว่า “ยู่อี่” หมายถึง
“สมปรารถนา” จึงถือเป็นของสำคัญยิ่งสำหรับวันแต่งงาน และในวันแต่งงาน เจ้าสาวจะต้องเสียบปิ่นปักผม
กับกิ่งทับทิมไว้บนเรือนผม โดยแม่เจ้ าสาวจะเป็นผู้เสียบปิ่นทองประดับใบทับทิมพองามให้กับลูกในคืนวันส่งตัว เพราะเชื่อว่ากิ่งทับทิมจะช่วยให้คนรักใคร่เอ็นดู และหมายถึงสาวบริสุทธิ์สำหรับเรื่องปิ่น เนื่องจากคนสมัยนี้คิดว่า
ที่ต้องเสียบปิ่น เพราะบนปลายปิ่นมีคำว่า "หยู่อี่" ซึ่งหมายความว่า "สมหวัง" แต่แท้จริงแล้วเป็นเคล็ดลับของคนโบราณ เพราะเจ้าบ่าวบางรายไม่เคยมีประสบการณ์การเข้าหอมาก่อนเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเป็นครั้งแรก บางรายจีงหลั่งไม่หยุดและบางทีอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ คนเฒ่าคนแก่จึงสอนเจ้าสาวไว้ว่า หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ให้เอาปิ่นปักหลังเจ้าบ่าวเพื่อเขาจะได้รู้สึกตัว
ของใช้วันแต่งงานฝ่ายชายต้องเตรียม
ดอกไม้กำใหญ่ 1 กำ ให้เจ้าสาว ส้มเช้งติดตัวซังฮี้ 12 ลูก หรือ 24 ลูก กิมทึ้ง 2 ห่อ
พ่อของเจ้าสาวหรือผู้ใหญ่จูงเจ้าสาวขึ้นรถพร้อมให้พรแก่คู่บ่าวสาว แล้วเอาขันใส่น้ำเปล่า ใช้ใบทับทิม
และเซียงเซ้าพรหมน้ำรอบ ๆ รถคู่บ่าวสาว พร้อมให้พรแก่คู่บ่าวสาวเพื่อเป็นสิริมงคล เวลารถจะออกให้ขับเคลื่อน
ไปข้างหน้าเท่านั้น ห้ามถอยหลังต้องให้น้องชายคนถือตะเกียงนั่งไปกับรถคู่บ่าวสาวด้วย เวลาเข้าบ้านเจ้าบ่าวคนแรกคือ
คนถือตะเกียง คนที่สองคือคนถือตู้เซฟ ต่อไปคือคู่บ่าวสาว
เพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว
ประเพณีจีนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวจะมีเพื่อนที่จัดเป็นพี่เลี้ยงให้ด้วย เพื่อไม่ให้เก้อเขินในเวลาเดิน เวลานั่ง
ภาษาไทยว่า เพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อเจ้าสาว โดยมากจะเลือกจากเพื่อนสนิทรุ่นราวคราวเดียวกัน เพื่อนทางเจ้าบ่าวจะมีหน้าที่สำคัญในการผ่านประตูนาค ประตูเงิน และประตูทอง จะต้องเตรียม “อั้งเปา” คือซองแดงบรรจุธนบัตรไว้ซื้อค่าผ่านประตูจากญาติพี่น้องฝ่ายเจ้าสาว ให้มากน้อยเพียงใดแล้วแต่ฐานะเป็นธรรมเนียม
ขบวนแห่เจ้าบ่าว
คนมีฐานะร่ำรวยก็มีพาหนะเป็นรถยนต์ยี่ห้อชั้นดี ราคาแพงหน้ารถจะติดตัวอักษร 3 ตัว
ระบุแซ่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ตัวหนังสือแปลว่าเจ้าบ่าวแซ่นี้กับเจ้าสาวแซ่นั้นแต่งงานกัน ประดับประดาผูกด้วยโบว
์ผ้าสีชมพูอย่างโก้หรู่ รถยนต์นั้นจะใช้ทั้งแห่เจ้าบ่าวไปบ้านเจ้าสาว และรับเจ้าสาวไปบ้านเจ้าบ่าวด้วย
เจ้าสาวนิยมถือพัดตลอดเวลา มิใช่ว่าร้อนแต่ธรรมเนียมนิยมว่า พัดเป็นสิ่งของโบกวีให้เกิด
ความร่มเย็นเป็นสุข
ขบวนรถเมื่อจะแห่เจ้าสาวไปส่งบ้านเจ้าบ่าว ต้องให้ลูกหลานหรือน้องที่เป็นผู้ชายถือตะเกียง และอีกคนหนึ่งถือตู้เซฟใส่เงินทองนำขบวนไป โดยมีรถยนต์นำหน้าโดยเฉพาะ
พอไปถึงบ้านเจ้าบ่าวตะเกียงนี้จะนำไปตั้งไว้ในห้องนอนของคู่บ่าวสาว และต้องจุดไว้ตลอดคืนนั้น
ขบวนรถเจ้าสาวมาถึงบ้านเจ้าบ่าว พ่อ-แม่ของเจ้าบ่าวต้องหลบไปในห้องตัวเองก่อนไม่ให้เผชิญหน้ากันต่อไปจะได้รักใคร่กันต้องเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายชาย
หรือฝ่ายหญิงก็ได้มาจูงเจ้าสาวเข้าบ้าน ต้องมีลูกหลานมากและแข็งแรงทั้งคู่ พร้อมให้พรแก่คู่บ่าวสาว และไหว้เจ้าที่เจ้าทางเป็นอันเสร็จพิธี
วันงาน - พิธีรับตัวเจ้าสาว"ที่บ้านเจ้าสาว"
ก่อนถึงฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาวไหว้เทพยดาฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่และบรรพบุรุษแล้วมารับประทานอาหารมงคล 10 อย่างกับพ่อแม่พี่น้องของตนเป็นมื้อสุดท้ายโดยมีพ่อหรือแม่สื่อคอยคีบอาหารให้ โดยผู้ใหญ่ต้องเอ่ยชื่ออาหาร
แต่ละอย่างด้วย เพื่อความเป็นสิริมงคล จนได้ฤกษ์
อาหารมงคล 10 อย่างสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาว คนจีนหลายบ้าน มีธรรมเนียมว่า ในคืนวันส่งตัวเจ้าสาวจะทำอาหาร 10 อย่างที่เป็นเคล็ดมงคลอวยพรให้คู่บ่าวสาวได้รับประทาน ได้แก่
1. วุ้นเส้น หรือเส้นหมี่ หรือบะหมี่ หมายความว่า ให้รักกันนาน ๆ อายุยืนยาว
2. เห็ดหอม หมายความว่า ให้ชีวิตคู่หอมหวาน
3. ผักกู้ช่าย หรือกุ้ยช่าย หมายความว่า ให้รักกันนาน ๆ หรือ ขอให้รวย
4. ผักเกาฮะไฉ่ หมายความว่า ให้รักใคร่ปรองดองกัน
5. หัวใจหมู หมายความว่า ให้รักกันเป็นใจเดียว
6. ไส้หมู-กระเพาะหมู หมายความว่า ให้ปรับตัวเข้าหากัน นิสัยใดไม่ดีก็ให้เปลี่ยนเป็นนิสัยที่ดี เพื่อให้มีความสุข
และรักกันยืนยาว
7. ตับ หมายความว่า ให้มีความรุ่งเรืองและเจริญก้าวหน้า
8. ปลา หมายความว่า ให้ร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้
9. ปู หมายความว่า ให้ทำอะไรได้คล่องแคล่วว่องไว ขยันทำมาหากินและงานสำเร็จลุล่วงเร็วไว(เหมือนปูที่เดินเร็ววิ่งเร็ว )
10.ไก่ หมายความว่า ให้มีความกล้าหาญ มีสติปัญญาและมีความเที่ยงตรง
เจ้าบ่าวจะต้องเดินทางไปรับเจ้าสาวตามฤกษ์ เจ้าบ่าวก็จะนั่งรถคันโก้ผูกโบว์สีชมพูที่กระโปรงหน้ารถมายังบ้านเจ้าสาว
ในการรับตัวเจ้าสาว ในขบวนที่ร่วมเดินทางไปรับเจ้าสาวนั้นจะประกอบไปด้วยกลุ่มญาติที่เป็นชายล้วนๆ เจ้าบ่าว
จะต้องเตรียมช่อดอกไม้ไปด้วย 1 ช่อ และนำปิ่นทองผูกติดกับกิ่งทับทิมสำหรับประดับผมมาด้วย โดยมอบให้กับ
แม่ของเจ้าสาว เพื่อนำปิ่นทองนี้มาประดับผมให้กับเจ้าสาว ที่สวมชุดแต่งงานและแต่งหน้าทำผมสวยงามรออยู่
ในห้องด้านใน การทำเช่นนี้ถือเป็นการอวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวโชคดี เจ้าบ่าวจะต้องนำหมูดิบมามอบให้แม่เจ้าสาว แทนยาบำรุงที่ท่านอุตส่าห์ตั้งท้องเจ้าสาวมา
เมื่อเจ้าบ่าวเดินทางมาถึงบ้านเจ้าสาว ฝ่ายเจ้าสาวต้อนรับด้วยน้ำชาจนใกล้ฤกษ์ส่งตัวเจ้าบ่าวจะต้องฝ่า
ประตูเงินประตูทองเข้าไป ตรงนี้เจ้าบ่าวจะต้องให้ "เล่าตั้ว" หรือพี่เลี้ยงของเจ้าบ่าวคอยจ่ายค่าผ่านทาง
เพื่อเข้าไปหาเจ้าสาวที่อยู่ในห้อง เมื่อผ่านด่านทั้งหมดแล้วเจ้าบ่าวจะนำช่อดอกไม้ที่เตรียมมามอบให้เจ้าสาว
ซึ่งนั่งถือพัดแดงคอยอยู่ จากนั้นจึงพากันออกมาเคารพพ่อแม่ที่รออยู่ด้านนอก
ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องไหว้ฟ้าดินไหว้เจ้าที่ (ที่เรียกว่า "ตี่จูเอี๊ย") ไหว้เทพเจ้าเตาไฟ ซึ่งอยู่ในครัวและ
ไหว้บรรพบุรุษของเจ้าสาว ถ้าหากปู่ย่าตายายของเจ้าสาวยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องไหว้กับตัว เพื่อบอกกล่าวให้ท่านทราบว่าเจ้าสาวกำลังจะจากครอบครัวไปแล้ว
จากนั้นจึงทำการคารวะน้ำชาพ่อแม่เจ้าสาว
|