ที่มา : รักในหลวง ห่วงภาษาไทย: 2544,10

หน้าที่ของมหาดไทยคือการอำนวยความสุขแก่ราษฎร
                “หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย  พูดอย่างรวบรัดคือการอำนวยความสุขสวัสดีแก่ทวยราษฎร์  และการอำนวยความสุขสวัสดีที่ทำอยู่นั้น  อาจจำแนกตามประเภทงานได้เป็น  ๔  ด้าน  คือ  การอำนวยความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  การพัฒนาอาชีพและฐานะความเป็นอยู่  การพัฒนาจิตใจให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความสุขและความสามัคคีปรองดอง  และการให้การศึกษาเพื่อสร้างอนาคตที่แจ่มใส  งานทั้ง  ๔  ด้าน  ยังจำแนกเป็นส่วนปลีกย่อยออกไปได้มากมายซึ่งต้องมีกรมกองต่าง ๆ  รับผิดชอบไปปฏิบัติ  ทั้งต้องพึ่งพิงอาศัยความร่วมมือจากกระทรวงทบวงกรมอื่นอย่างกว้างขวางและใกล้ชิดด้วย  ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกฝ่ายทุกคน  จึงทำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหลักปฏิบัติที่แน่นอนเป็นเครื่องยึดถือ  หลักการอย่างแรกก็คือต้องปฏิบัติงานให้ประสานสอดคล้องและดำเนินก้าวหน้าไปด้วยกัน  เสมอกัน พร้อมเพรียงกันทุกฝ่าย  โดยมิให้ล้ำหน้าหรือล้าหลังกว่ากัน  อันจะเป็นเหตุให้งานชะงักงันหรือเสียขบวนและเสียผล  หลักการอย่างที่สอง  คือต้องพยายามประสานงานกับทุกหน่วยงานด้วยความสมัครสมาน  และความเข้าใจอันดีต่อกัน ประการสำคัญคือจะต้องระมัดระวังปฏิบัติการทุกอย่างด้วยความสุจริตเที่ยงตรงให้สมควร  และถูกต้องด้วยหลักวิชา  กฎหมายความชอบธรรม  โดยไม่มีอคติ”
                พระราชทานแก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
                                ในโอกาสที่กระทรวงมหาดไทยครบรอบ  ๑๐๐  ปี
                                                                เมื่อวันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๓๕

ผู้พิพากษาเป็นคนสำคัญในแผ่นดิน
                “ผูพิพากษาที่จะเข้ารับหน้าที่เป็นครั้งแรกจะต้องกล่าวคำปฏิญาณ  ดังที่ได้กล่าวมาสักครู่นี้  มีความสำคัญมาก  เพราะว่าผู้พิพากษาเป็นคนสำคัญในแผ่นดินเป็นผู้ที่จะทำให้บ้านเมืองมีความปลอดภัย  มีความสงบและมีความเจริญได้  จึงต้องกล่าวคำปฏิญาณ  ซึ่งทุกถ้อยทุกคำมีความสำคัญทั้งนั้น
                ถ้าจะกล่าวถึงคำแรก ๆ  คือจะต้องมีความยุติธรรม  ความยุติธรรมนี้  ก็เท่ากับสรุปหน้าที่ของท่านโดยแท้  ถ้าหากรักษาความยุติธรรมได้ในหน้าที่ผู้พิพากษาและในหน้าที่พลเมืองดี ก็เท่ากับท่านได้ช่วยให้บ้านเมืองรอดพ้นจากภัยอันตรายไปมาก  เพราะว่าสมัยนี้ความยุติธรรมไม่ค่อยมี  ความยุติธรรมโดยมากไปนึกถึงอาชญากร  ให้ความยุติธรรมแก่อาชญากร  อาชญากรนั้นเขาทำไม่ดี  แล้วผู้พิพากษาให้ความยุติธรรมกับเขาทำไม  ก็เพราะว่าเขาทำไม่ดี  แต่บางทีก็ไม่มากนัก  แล้วก็ขึ้นศาล  มีคนที่จะเอาให้ตาย  แต่ผู้พิพากษาจะต้องดูว่าเขาทำผิดแค่ไหน  ควรจะลงโทษแค่ไหน  การลงโทษนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ความยุติธรรม  เป็นการให้ความยุติธรรมกับผู้ที่ทำไม่ดี  เพราะผู้ที่ทำไม่ดีถ้าไม่ได้รับโทษไม่รู้ว่าตัวทำไม่ดียังไง  ก็นับว่าเป็นการลงโทษ  เพราะว่าต่อไปเขาก็จะทำไม่ดีต่อไป  และอาจจะถูกลงโทษหนักยิ่งขึ้นทุกที  ฉะนั้น  คนที่ทำผิดนั้นถ้ารู้ว่าทำผิด  เขาก็จะปลอดภัย  อันนี้หลักนี้แต่ละท่านก็อาจจะต้องไปพิจารณาดู  อาจจะดูท่าทางมัมคัดค้านกับคำว่า  ให้ความยุติธรรม ความยุติธรรมนี้ก็คือให้พอดีพอเหมาะ  แล้วก็จะทำให้ผู้ที่มีอุปนิสัยสันดานไม่ดีเข้าใจว่าเขาทำไม่ดี  จะได้ไม่ทำต่อไป  จะทำให้คนทั่วไปไม่ได้รับอันตรายจากความไม่ดีของบุคคลนั้น”
                                พระราชทานในโอกาสที่ประธานศาลฎีกา
                           นำผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม
                    เฝ้าฯ  เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
                                                เมื่อวันที่  ๑๔  มีนาคม  ๒๕๔๔

ตำรวจทำหน้าที่ที่สำคัญ
                “ตำรวจทำหน้าที่ที่สำคัญและกว้างขวางมาก  คือต้องทำหน้าที่ทั้งด้านการปกครอง  คอยสอดส่องดูแลทุกข์สุขตลอดจนสวัสดิ์ภาพของประชาชน  ทั้งด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและผู้กระทำผิดรวมทั้งการปกป้องแผ่นดินไทยเมื่อมีภัยคุกคามอีกด้วยนับว่ามีภาระหนัก  มีความรับผิดชอบสูง  เพราะต้องเผชิญกับปัญหานานาและต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตอยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นผู้ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจให้สำเร็จได้ครบถ้วน  จะต้องเป็นบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถมีความเข้มแข็งอดทน  และมีความเสียสละอย่างแท้จริงจึงของให้ตำรวจทุกคนได้ภูมิใจ  ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญและมีเกียรติยิ่งนี้  และตั้งปณิธานให้แน่วแน่ที่จะพากเพียรปฏิบัติตัว  ปฏิบัติงานทุกด้าน  ทุกระดับ  ให้บรรลุผลอันเลิศ  เพื่อความผาสุกร่มเย็นของประชาชนและความเจริญมั่นคงของชาติไทยเรา”
                                                                                พระราชทานในพิธีสวนสนาม
                ในโอกาสที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสถาปนาครบ  ๑๐๐  ปี
                                                                                เมื่อวันที่  ๑๙  เมษายน  ๒๕๔๕

 

เอกสารอ้างอิง
คณิตา เลขะกุล. 2550. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการอนุรักษ์ภาษาไทย.วารสารไทย ปีที่29 (ฉบับที่106):49-55.
คำขวัญการอนุรักษ์ภาษาไทย"อนุรักษ์ภาษาไทย"http://www.chiangmaithailand.tht.in/aticle114.html
ในหลวงกับการใช้ภาษาไทย     
http://www.siamrath.co.th/web/?q=%E0%B9%83%E0%B8%99%
E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%
B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%
9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%
B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%
E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%
B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
รักในหลวง ห่วงภาษาไทย. 2544. กรุงเทพฯ : การศาสนา
PREVIOUS