ประวัติราชประเพณีพระบรมศพ

ที่มา : สมภพ ภิรมย์.2528,331

หลักฐานที่กล่าวถึงการจัดพระราชพิธีพระบรมศพที่เก่าแก่ที่สุดนั้น  ปรากฏอยู่ในหนังสือไตรภูมิกถาหรือไตรภูมิพระร่วง  หนังสือวรรณคดีทางพระพุทธศาสนาเล่มแรกของชาติไทย  พระมหาธรรมราชาที่  ๑  พญาลิไทย  แห่งกรุงสุโขทัย  ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อปีระกา  พุทธศักราช  ๑๘๘๘  พรรณนาการจัดการพระศพพระยามหาจักรพรรดิราช  ว่า
                “เมื่อนั้น  จิงพระญาจักรพรรดิราชนั้น  ธ ก็ทิพธรชงคต  พิพธรชโลมด้วยกระแจะจวงจันทน์แลจิงเอาผ้าขาวอันเนื้อละเอียดนั้น  มาตราสังศพพระญาจักรพรรดิราชนั้น  แล้วจิงเอาสำลีอันดีด้วยสะพัดได้แลร้อยคาบมาห่อชั้นหนึ่ง  แล้วเอาผ้าขาวอันละเอียดมาห่อชั้น  ๑  เล่า  แล้วเอาสำลีอันละเอียดมาห่อเล่าดังนั้น  นอกผ้าตราสังทั้งหลายเป็น  ๑๐๐๐  ชั้น  คือว่าห่อผ้า  ๕๐๐  ชั้น  แลสำลีอันอ่อนนั้นก็ได้  ๕๐๐  ชั้น  จิงรดด้วยน้ำหอมอันอบแลได้  ๑๐๐  คาบ  แล้วเอาใส่ในโกศทองอันประดับนิคำถมอ  แลรจนาด้วยวรรณลวดลายทั้งหลายอันละเอียดนักหนา  แล้วจิงยกศพไปสงสการด้วยแก่นจันทน์กฤษณา  ทั้งแล้วบูชาด้วยเข้าตอกดอกไม้ทั้งหลาย  ครั้นว่าสงสการเสร็จแล้ว  คนทั้งหลายจิงเก็บเอาธาตุพระญามหาจักรพรรดิราชนั้นไปประจุแลก่อพระเจดีย์แทบทางพบแห่งกลางเมืองนั้น  แต่ให้คนทั้งหลายไปไหว้วันบบูชา...”
                ล่วงมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น  ไม่ปรากฏหลักฐานการพระศพ  กระทั่งถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง  พงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวเฉพาะลักษณะพระเมรุสำหรับถวายพระเพลิงเท่านั้น  มิได้กล่าวถึงการจัดพิธีกรรมการสร้างพระเมรุมาศในสมัยอยุธยายิ่งใหญ่โอฬารมาก  ปรากฏตามจดหมายเหตุและพระราชพงศาวดารว่า  พระเมรุมาศสูงถึง  ๒  เส้น  มีปริมณฑลกว้างใหญ่  เช่น  พระเมรุมาศของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเพราะสร้างพระเมรุทองอยู่ในพระเมรุใหญ่  กล่าวคือ
                “ขนาดใหญ่  ชื่อ  ๗  วา  ๒  ศอก  โดยสูง  ๒  เส้น  ๑๑  วาศอกคืบ  มียอด  ๕  ยอด  ภายในพระเมรุทองนั้นประกอบด้วยเครื่องสรรพโสภณวิจิตรต่าง ๆ  สรรพด้วยพระเมรุทิศ  พระเมรุราย  แลสามสร้าง”

ที่มา : สายไหม จบกลศึก.2551,31
PREVIOUS   NEXT