ความเป็นมาของประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ |
ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุของเมืองนครศรีธรรมราชสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นประเพณีที่รับมาจากอินเดีย |
ที่มา : ใต้...หรอย มีลุย.2547,35 |
ประเพณีการแห่ผ้าขึ้นธาตุของเมืองนครศรีธรรมราชก็น่าจะเกิดขึ้นด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ เพราะเมื่อนครศรีธรรมราชรับพุทธศาสนามาจากอินเดีย ก็รับเอาประเพณีต่าง ๆ ตามแบบชาวพุทธในอินเดียเข้ามาด้วย และยึดถือว่าการทำบุญหรือการกราบไหว้บูชาที่ให้กุศลจริง ๆ จะต้องปฏิบัติต่อพระพักตร์ของพระพุทธองค์ เมื่อพระพุทธองค์เข้าสู่ปรินิพพานแล้วก็ยังมีสัญลักษณ์แทนพระองค์อยู่ เช่น เจดีย์ พระพุทธรูป การกราบไหว้บูชาสิ่งเหล่านี้ก็เท่ากับบูชากราบไหว้พระพุทธองค์ด้วย และการที่ชาวนครศรีธรรมราชนำเอาผ้าไปบูชาพระบรมธาตุเจดีย์โดยการโอบรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ก็ถือว่าเป็นการบูชาที่สนิทแนบกับพระพุทธองค์เช่นกัน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุของเมืองนครศรีธรรมราชเป็นประเพณีที่มีมานาน จนยากที่จะยืนยันได้แน่ชัดว่าเริ่มขึ้นในสมัยใด ตามประวัติของประเพณีนี้กล่าวว่า ในสมัยโบราณประมาณ พ.ศ. 1773 พระเจ้าสามพี่น้อง คือพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช พระเจ้าจันทรภาณุ และพระเจ้าพงษาสุระ กำลังเตรียมการสมโภชพระธาตุอยู่นั้น คลื่นได้ซัดเอาผ้าแถบใหญ่ยาวผืนหนึ่งซึ่งมีลายเขียนเรื่องพระพุทธประวัติ ซึ่งเรียกว่า “พระบต” ขึ้นที่ชายหาดอำเภอปากพนังเมืองนครศรีธรรมราชก่อนที่จะถึงวันสมโภชพระบรมธาตุไม่นาน ชาวปากพนังได้เก็บผ้านั้นไปถวายพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช พระองค์ได้รับสั่งให้ซัก “พระบต” จนสะอาดแต่ลายเขียนภาพพุทธประวัติก็ไม่ลบเลือน ยังคงสมบูรณ์ดีทุกประการ จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธกลุ่มหนึ่งจำนวนราวร้อยคนจากเมืองหงสาวดี มีผขาวอริยพงษ์เป็นหัวหน้า จะเดินทางไปลังกาเพื่อนำพระบตไปบูชาพระบาทในลังกา แต่โดนพายุที่ชายฝั่งเมืองนคร มีคนรอดชีวิตราวสิบคน (รวมทั้งหัวหน้าด้วย) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชทรงพิจารณาเห็นว่า ควรนำพระบตนั้นไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ เจ้าของพระบตซึ่งรอดชีวิตก็ยินดี ด้วยเหตุนี้การแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงได้กลายมาเป็นประเพณีของเมืองนครศรีธรรมราชสืบต่อมาจนกระทั่งปัจจุบัน |