วิวัฒนาการของประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในปัจจุบันมีรายละเอียดต่างไปจากเดิม  กล่าวคือแต่เดิมมีช่างผู้ชำนาญเขียนภาพสีพระพต  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพเกี่ยวกับพุทธประวัติ  เมื่อเขียนภาพแล้วจะประดับพระบตด้วยลูกปัดสีแพรพรรณ  และดอกไม้ที่ขอบแถบผ้าโดยตลอดทั้งผืน  แต่ปัจจุบันอาจเป็นเพราะสภาพสังคมเปลี่ยนไป  เวลาว่างมีน้อย  หรืออาจเป็นเพราะไม่มีช่างผู้ชำนาญจึงทำให้การประดับประดาและการเขียนภาพที่พระบตสูญหายไป  และผ้าที่ใช้กันทุกวันนี้มีเพียง 3 สี  คือสีขาว  สีแดง  และสีเหลือง  ภัตตาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคที่เคยจัดไปถวายพระตอนแห่ผ้าขึ้นธาตุปัจจุบันก็ไม่มี
           นอกจากนี้แต่เดิมการแห่ผ้าขึ้นธาตุจะกระทำกันโดยพร้อมเพรียงเป็นขบวนที่เอิกเกริกเพียงขบวนเดียว  แต่ปัจจุบันเนื่องจากประชาชนมาจากหลายแห่ง  และต่อละคนต่างเตรียมผ้ามาเอง  ทำให้การแห่ผ้าขึ้นธาตุไม่พร้อมเพรียงเป็นขบวนเดียวกัน  และใครจะแห่ผ้าขึ้นธาตุในเวลาใดก็ได้ตามความสะดวก
           เมื่อขบวนแห่ผ้าขึ้นธาตุมาถึงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารแล้ว  ก็แห่ทักษิณาวัตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ 3 รอบ  แล้วนำผ้าเข้าสู่วิหารพระม้า  หรือวิหารพระทรงม้า  ในตอนนี้ผู้ที่ร่วมในขบวนแห่จะส่งผู้แทนเพียง 3-4  คนสมทบไปกับเจ้าหน้าที่ของวัดนำพระบตขึ้นไปโอบรอบพระบรมธาตุเจดีย์  เพราะทางวัดได้กำหนดให้ลานภายในกำแพงแก้วเป็นเขตหวงห้าม
ที่มา : ใต้..หรอยมีลุย.2547,34
อนึ่ง  การบูชาองค์พระบรมธาตุเจดีย์  โดยการแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุนี้  นอกเหนือจากการแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุในประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีแล้ว  ก็อาจกระทำในโอกาสอื่น ๆ อีกก็ได้ เช่น  ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลก่อน ๆ เสด็จเมืองนครทุกคราวก็เคยโปรดฯ  ให้มีการแห่ผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุมิได้ขาด  ดังปรากฏในพระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เรื่องเสด็จประพาสแหลมมลายู  ร.ศ. 124  (พ.ศ. 2448)  ได้ทรงกล่าวถึงพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการนี้ว่า  “วันที่  5  ก.ค.  เวลาเช้าไม่ได้ไปแห่งใด  เพราะเหนื่อยและนอนน้อย  เวลาบ่ายแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุตามเคย  แต่หาผ้าแดงไม่ได้  ซื้อทำธงรับเสด็จกันหมดเมือง  จึงต้องใช้พื้นชมพู  เข้าไปที่วิหารพระม้า  ถ่ายรูปที่นั่นและทับเกษตร  แล้วไปดูละครทรัพย์ภรรยาพระศิริธรรมบริรักษ์ที่พลับพลา”
เอกสารอ้างอิง
ใต้ หรอย มีลุย : บอกเล่าเรื่องราวความเชื่อ ศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของภาคใต้.  2547. 
กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 
ประทุม  ชุ่มเพ็งพันธุ์.  2548.  ศิลปวัฒนธรรมภาคใต้.  กรุงเทพฯ : สิวีริยาศาส์น
ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช.2528.ประเพณีสำคัญของชาวนครศรีธรรมราช. กรุงเทพฯ : กรุงสยาม
 
PREVIOUS