เพลงพระราชนิพนธ์อันดับที่ 10 ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระ เจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

 คำหวาน
ได้ยินเพลงหวานก้อง
ถ้อยทำนองร้องรำพัน
ฝากความรักไว้มั่น
ด้วยถ้อยอันอ่อนหวาน
เปรียบดังเพลงทิพย์มา
จากฟากฟ้าบันดาล
เสียงเพลงปานเพลงวิมาน
ประทานมากล่อม
เมื่อได้ยินเพลงเพราะดังว่า
ดั่งเทวาพาจิตโน้มน้อม
หรือมาลวงลองร้องเพลงกล่อม
จะประนอมให้ยอมปลงใจ
หากคำหวานขานเอ่ย
เพื่อเฉลยน้ำใจ
รักจริงใจขอฟังไป
ฟังให้ชื่นเชย
ชื่นอารมณ์สมปอง
แว่วเพลงร้องคมคำ
พลอดความรักเพ้อพร่ำ
ด้วยถ้อยคำงามสม
ถ้อยทำนองร้องส่ง
ก่อให้หลงลิ้นลม
เพลินเพลงชมย้อมอารมณ์
นิยมกลมกล่อม
เมื่อได้ยินเพลงเพราะดังว่า
ดั่งเทวาพาจิตโน้มน้อม
หรือมาลวงลองร้องเพลงกล่อม
จะประนอมให้ยอมปลงใจ
หากคำหวานขานเอ่ย
เพื่อเฉลยน้ำใจ
รักจริงใจขอฟังไป
ฟังให้ชื่นเชย

ยามค่ำ
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
ยามประกายแสงทองส่อง
งามเรืองผ่องนภา
ประเทืองผองมวลชีวา
ดังพรจากฟ้าเสกมาให้
ยามประกายแสงเดือนส่อง
ยามนวลผ่องฟ้าไกล
ชื่นชมสมดังดวงใจ
สบสุขสุดใสหทัยบาน
ยามค่ำลงโพล้เพล้ถ่ายเทประภา
ในเมื่อยามทิวาต่อราตรีกาล
มีแต่ความมืดมนอับจนดวงมาน
เหงาปานขาดใจ
แท้ที่จริงนั้นยามค่ำ
นำให้รื่นฤทัย
ค่ำลงแล้วราตรีใหม่
เคลื่อนมาพาใจให้ชื้นชื่นเชย
ยามรุ่งแสงทิวางาม
เรืองอร่ามวิไล
โลกเริงสำราญปานใด
หมู่มวลพันธุ์ไม้ดอกใบบาน
ครั้นเมื่อยามแสงเดือนส่อง
ราตรีผ่องสำราญ
หมู่ดาววับวามงามตระการ
โลกเป็สถานชื่นบานใจ
ยามค่ำลงสลัวมืดมัวแสงสี
แสนเปลี่ยวในฤดีสุดที่อาลัย
มีแต่ความมืดมนอับจนดวงใจ
คอยคืนใหม่งาม
แท้ที่จริงนั้นยามค่ำ
นำยามเนื่องถึงยาม
ค่ำลงแล้วราตรีตาม
โลกยิ่งสุดงามสมความชื่นชม
 

เกษตรศาสตร์
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: ดร.ประเสริฐ ณ นคร
เขียวธงขจี
ก่อเกิดไมตรีสามัคคีมั่น
สถานเรียนเกษตรนั้น
เราผูกพันบูชา
เขียวนาป่าไพร
แผ่นดินถิ่นไทยไพบูลย์หนักหนา
เพราะไทยผลิตค้า
ทุกแหล่งฟ้าหล้าอิ่มเอม
แม้เหนื่อยกายใจสำราญ
เสร็จกิจการงานเกษตรเกษม
ล้วนปรีดิ์เปรมนำวิชา
สร้างชาติสร้างตน
รวมแรงรวมใจ
จะจงรักจอมจักรินทร์
อีกแดนแผ่นดินทำกินเก็บผล
พระคุณเกษตรล้น
รักเปี่ยมท้นดวงจิตเอย