อานิสงส์ในการกินเจ
   

   บรรดานักโภชนาการ มีหลายท่านให้แนวความเห็นไว้เกี่ยวกับการกินเจ ว่าจะได้สารประโยชน์ต่อร่างกายมากน้อยเพียงไร จะขอยกมากล่าวไว้เท่าที่จำได้ มีดงนี้ :-
1.เป็นการงดเว้นการเบียดเบียนสัตว์ทุกชนิด ถ้ามีคนกินเจกันมาก ๆ จะทำให้มีคนฆ่า สัตว์ลดจำนวนลง เหมือนกับเป็นการต่ออายุให้สัตว์เหล่านั้นโดยอ้อม อย่างน้อยก็เป็นการยืดอายุของสัตว์ที่จะถูกฆ่าอีกหลาย ๆ วัน บุญจะพอมองเห็นอยู่ตรงนี้เอง
2. เป็นการฝึกนิสัย จิตใจ ให้คนเรามุ่งบำเพ็ญความดี มีการถือศีล 5 ในระยะหนึ่งอยู่ต่อเนื่อง
เพราะทุกคนที่มีศีล จะมีความไม่ประมาท จะระมัดระวังทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ มิให้คิดประพฤติปฏิบัติในทางบาปกรรม หรือทางอกุศลในฐานะเราเป็นชาวพุทธ
3.ในทางโภชนาการ แพทย์กล่าวว่า เมื่อคนเราเคยกินเนื้อสัตว์มามากแล้ว พอถึงเทศกาลถือศีลกินเจ แล้วหันมาเลิกกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์เสีย แล้วมากินอาหารผักอาหารเจ ย่อมเป็นการหยุดพักกระเพาะของตัวเองสักระยะเวลาหนึ่ง เช่นเดียวกับการล้างเครื่องยนต์
เมื่อกระเพาะว่างจากอาหารจำพวกเนื้อ แล้วหันมากินอาหารจำพวกผัก ก็จะทำให้กระเพาะทำงานเบาลง ระบบการย่อยก็เรียบง่าย จิตใจก็โปร่งใส ระบบการขับถ่ายก็จะดี คนที่เคยเป็นโรคแผลในลำไส้หรือกระเพาะอาหารอยู่ก่อนแล้ว พอกินเจบาดแผลก็จะค่อยทุเลาเบาบางลง บางรายอาจจะหายไปเลย
4. การกินเจก็คือการกินผัก อาจจะขาดอาหารตามหลักโภชนาการ 5 หมู่บ้าง แต่คนที่กินเจที่เรียกว่า นักมังสวิรัตินั้น ปกติมักจะเป็นคนมีสุขภาพร่างกายดี มีสติปัญญา และสมองปลอดโปร่ง แถมยังเป็นคนมีอายุยืน ปราศจากโรคทางเดินอาหารอีกด้วย
5. อาหารจำพวกพืชผัก เฉพาะเมืองไทยเรานั้น จะมีทุกฤดูกาล หาซื้อขายกันตลอดปี ราคาก็ไม่แพงไปกว่าอาหารจำพวกเนื้อสัตว์
                ได้อานิสงส์ในด้านการประหยัดรายจ่ายอีกทางหนึ่งด้วย
                อนึ่ง ถ้าเป็นคนมักน้อยสันโดษจริง ๆ ผลหมากรากไม้ในบ้านเมืองไทย จะหากินได้ทุกฤดูกาล ผลไม้บางชนิดมีโปรตีน กินทดแทนอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ก็ได้ เช่น มะละกอ ส้ม สับปะรด ลิ้นจี่ ทับทิม มะม่วง ลำไย ฯลฯ
                ยังมีจำพวกพืชลงหัวอีกมาก ที่เราจะเลือกกิน เช่น ถั่วลิสง เผือก มัน เป็นต้น

 
PREVIOUS