๓) พระราชพิธีซึ่งสืบทอดประเพณีปฏิบัติตามความเชื่อของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ  เพื่อความมั่นคง  เป็นสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง  เป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ราษฎร

 

๓.๑)  พระราชพิธีสมโภชหลักเมืองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงตระหนักในความหมาย
และความสำคัญของคติความเชื่อเรื่องหลักเมืองที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน 
ในขณะเดียวกันก็ทรงเตือนสติว่าประชาชนที่ยึดมั่นในการประกอบความดีด้วยจึงจะช่วยให้เกิด
ความมั่นคงและความเจริญของประชาชน  ดังพระราชดำรัสที่ได้พระราชทานแก่
คณะกรรมการสร้างศาลหลักเมืองบางจังหวัด  ซึ่งเข้าเฝ้าฯ  น้อมเกล้าฯ  ถวาย
ยอดหลักเมืองเพื่อทรงพระสุหร่ายและทรงเจิม  ความตอนหนึ่งว่า
“หลักเมืองนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจไม่ว่าหมู่ใดคณะใด  ถือเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียว
และทำให้มีกำลังใจขึ้นมานั่นเอง  ทุกสมัยและโดยเฉพาะปัจจุบันนี้กำลังใจ
และสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน  จะเป็นผุ้ที่มีหน้าที่ในด้านใดก็ตาม  ทั้งราชการ
  ทั้งเอกชนทั้งผู้ที่ประกอบอาชีพต่าง ๆ  ต้องมีที่ยึดเหนี่ยวในด้านจิตใจทั้งนั้น
  เพราะเหตุว่าสถานการณ์หรือสภาพบ้านเมือง  ทั้งตนเอง  ย่อมต้องมีสิ่งที่น่าวิตกอยู่เสมอ”

   ๓.๒)  พระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช
 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ 
ให้หล่อเป็นรูปสมมติเทพยดา  สำหรับการบูชา
  เพื่อให้บ้านเมืองมั่นคงปลอดภัยและเจริญรุ่งเรือง
 พระราชพิธีนี้จัดทำเป็นครั้งแรกในรัชกาลที่  ๔
 สำหรับในรัชกาลปัจจุบัน  มีการประกอบพระราชพิธีถวาย
สักการะพระสยามเทวาธิราชและเทวดาต่าง ๆ  ณ พระที่นั่ง
ไพศาลทักษิณในวันขึ้น  ๑  ค่ำ  เดือน  ๕  ของทุกปี

๓.๓)  พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา  เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
  พระราชพิธีศรีสัจจปานกาล  หมายถึง  พระราชพิธีอันเป็นมงคล
แห่งความซื่อสัตย์ที่ใช้น้ำเป็นเครื่องกำหนด  เป็นพระราชพิธี
ที่มีความสำคัญในด้านการปกครองสืบทอดมาแต่สมัยอยุธยา
เดิมมีแต่พิธีพราหมณ์  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ  ให้เพิ่มพิธีสงฆ์ร่วมกับพิธีพราหมณ์

  และเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดบางอย่าง  โดยกำหนดให้พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า
และข้าราชการ  ดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาเฉพาะพระพักตร์  ภายในพระอุโบสถ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม  และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่ร่วมเสวย
น้ำพระพิพัฒน์สัตยาด้วย  หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ.  ๒๔๗๕  ไม่มีการจัด
พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาอีกจนกระทั่ง  พ.ศ.  ๒๕๑๒
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ  ให้ฟื้นฟูพระราชพิธีถือน้ำ
พระพิพัฒน์สัตยา  ผนวกเข้ากับพระราชพิธีพระราชทานเครื่องราชิสริยาภรณ์
อันมีศักดิ์รามาธิบดี  โดยกำหนดเฉพาะผู้เป็นสมาชิกเครื่องราชดิสริยาภรณ์
อันมีศักดิ์รามาธิบดีเท่านั้นที่ต้องดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา