แพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากฮาร์วาร์ด
ในขณะที่สมเด็จฯ พระบรมราชชนกทรงอยู่ในตำแหน่งนายกกรรมการคณะแทพย์ นั้นทรงต้องประทับในการประชุมกรรมการประจำคณะด้วย และเมื่อมีการถกเถียงกัน ได้มีกรรมการบางท่านกล่าวในทำนองว่า “ผู้ที่มิใช่แพทย์จะไม่เห็นใจ” ประกอบกับพระอนามัยประชวรด้วยอาการพระวักกะพิการ ซึ่งทรงเป็นมาตั้งแต่ศึกษาที่ประเทศเยอรมนี ทำให้ทรงมีพระดำริที่จะไปศึกษาด้านการแพทย์ที่ทรงค้างไว้ถึงชั้นปีที่ ๓ ที่ฮาร์วาร์ด
วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ สมเด็จฯ พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระราชธิดา (สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา) เสด็จไปยังไฮเดลเบอร์ก ประเทศเยอรมนี เพื่อประทับรักษาอาการพระวักกะพิการ
วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ระหว่างที่ประทับอยู่ที่ไฮเดลเบอร์กนี้เอง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชะนีได้ประสูติพระโอรส คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ (พ.ศ. ๒๔๖๙) เสด็จพระดำเนินกลับเมืองไทยเพื่อถวายพระเพลิงบรมบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และประทับอยู่จนเสร็จการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในระหว่างนี้ได้ทรงทูลขอพระราชทานพระมรดกสมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธกรมหลวงนครราชสีมา เพื่อสร้างตึกผู้ป่วยอายุศาสตร์ และยังได้รับพระราชทานเงินสร้างตึกตรีเพชรและตึกจุฑาธุช สมเด็จฯ พระบรมราชชนกเสด็จไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาโดยลำพัง ทรงบำนักอยู่ที่ Y.M.C.A. ตราบกระทั่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จไปถึงจึงทรงย้ายไปประทับโรงแรม และประทับบ้านพักที่ 44 St.Paul Terrace, St. Paul Street, BrooklineMassachusetts
|