ใน ตำนานอุรังคธาตุกัณฑ์ที่ ๒ พุทธประวัติ ยังบรรยายถึง การเผยแพร่พระพุทธศาสนาโดยการ
สร้างรอยพระพุทธบาทในที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นยุคก่อนจะมีพระพุทธรูป ตลอดจนการทำให้พวกนาคยอมรับ
นับถือพุทธศาสนา มีข้สันนิษฐานว่า แต่เดิมมาคนเผ่าอ้ายลาวคงนับถือผีคือบรรพบุรษผู้มีพระคุณที่
ล่วงลับไปแล้วและมีลัทธิบูชางู โดยเหตุที่ได้อพยพโยกย้ายมาสู่อาณาบริเวณที่เป็นมรสุมฝนตกชุก
มีสัตว์ร้ายนานาชนิด โดยเฉพาะคงจะถูกงูกัดตายมาก จึงยอมจำนนแล้วบูชาจะเห็นรูปปั้นงู
ในสมัยก่อนเป็นหัวงูจงอางซึ่งเรียกกันว่า งูซวง ต่อมาจึงเติมหนอนขึ้นคล้ายกับสวมชฏาให้งูแล้ว
ใช้เป็นลวดลายประดับไว้ตามสถานที่เคารพ เช่นบนหลังคาโบสถ์วิหารหรือตามข้างบันไดทางขึ้นลง
ต่อมาชนพวกนี้จึงยอมรับนับถือพุทธศาสนาในสมัยก่อนสร้างพระอุรังคธาตุ
นอกจากนี้ยังพบวัฒนธรรมการสักที่เกี่ยวข้องกับนาคที่ว่า พวกอ้ายลาวโดยคำว่าอ้ายลาวหมายถึง
ชนชาติไทยคือลาว แต่โบราณนานมาเรียกกันว่า “อ้ายลาว” (มานิต วัลลิโภดม ๒๕๒๑:๑๑๗) นิยมสักตัว
ด้วยหมึก โดยเฉพาะ มณฑลยูนานกับไกวเจานั้น จีนหรือฮั่น เลยเรียกพวกนี้ว่า ขึ่นหมาน ที่แปลว่า
งูใหญ่ ความข้อนี้นำไปพิเคราะห์เปรียบเทียบกับพงศาวดารญวนที่เล่าว่า พระเจ้าหลากกองลุน
เป็นเชื้อสายพระยานาค และทรงประกาศบังคับให้พลเมืองของพระองค์สักเนื้อตัวให้เป็น รูปนาค
รูปงู
เพื่อป้องกันอสรพิษ นั้น ก็ได้ความรู้ว่าชนเหล่านั้นคือพวกอ้ายลาว ต่อมาชนเผ่าอ้ายลาว
ที่เคลื่อนตัวมาอยู่ทางอาณาจักรล้านนา และล้านช้าง (ซึ่งแนวคิดดังกล่าวยังสอดคล้องกับการศึกษา
ของนักวิชาการลาว (หุมพัน รัตนวงศ์, ๒๕๓๗:๑๐๘) กับความเชื่อที่ว่าคนลาวและตระกูลของ
คนลาวเป็นนาค) ยังนิยมทำการสักตัวด้วยหมึกอยู่ เนื่องจากได้รับ อิทธิพลทางศาสนาจากอินเดีย
มากขึ้นกว่าเดิม จึงเปลี่ยนลวดลายการสักจากรูปนาค รูปงู เป็น สัตว์ป่าหิมพานต์ตามคติของอินเดีย
เช่น รูปมอม (สิงโต) และรูปนก (จารุบุตร เรืองสุวรรณ ๒๕๒๑:๑๒)
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า นาค คือผู้บันดาลให้เกิดแม่น้ำลำคลองเกิดความสมบูรณ์พูนสุขแก่บ้านเมือง
และอาจบันดาลภัยพิบัติให้น้ำท่วมเกิดความล่มจมแก่บ้านเมืองก็ได้ นาคมีความสัมพันธ์กับคน
นฐานะเป็นบรรพบุรุษ เช่น ประวัติของอาณาจักรฟูนันในจดหมายเหตุจีนกล่าวว่า พราหมณ์
มาแต่งงานกับลูกสาวนาคแล้วตั้งตัวเป็นกษัตริย์ปกครองฟูนัน หรือในตำนานอุรังคธาตุกล่าวถึง
การที่พระพุทธเจ้าทรงทรมานพวกนาค จนเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา กลายเป็นผู้อุปถัมภ์
พระพุทธศาสนาไปยิ่งไปกว่านั้นนาคยังเป็นสถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์ในการปกครองและความยุติธรรม
(ศรศักร วัลลิโภดม, ๒๕๔๖:๑๒) |