ตำนา
ตำนาน  นิทานปรัมปราที่อธิบายเรื่องเราวเกี่ยวกับนาค  ปรากฏอยู่ในกลุ่มชนหลายเผ่าพันธุ์
ในแถบถิ่นนี้  ซึ่งท่านอาจารย์  ศรีศักร  วัลลิโภดมได้วิเคราะห์  เรื่องของ  นาค  ไว้ในหนังสือ
  แอ่งอารยธรรมอีสาน  อยู่  ๓  ประเด็นซึ่งเป็นกรอบแนวความคิดที่นักวิชาการรุ่นต่อมาใช้อธิบาย
ความหมายของนาคในบริบทของแถบถิ่นสุวรรณภูมิ  คือ  ๑)  นาคเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มชน
ดั้งเดิม  ๒)  นาคเป็นสัญลักษณ์ของเจ้าแห่งดินและน้ำ  ๓)  นาคเป็นลัทธิทางศาสนา
 นอกจากนี้  นาค  ได้ถูกอธิบายความไว้ในหนังสืออุรังคธาตุ  ตอนต้น  เรื่องว่า
 “เมืองสุวรรณภูมินี้เป็นที่อยู่แห่งนาคทั้งหลาย”  นาค  ในมิติความหมายทางลัทธิศาสนา  เช่น
 ตำนาน  อุรังคธาตุ  ที่แสดงให้เห็นถึงชัยชนะใหม่ต่อระบบความเชื่อเดิมจากการเคารพนับถือผี
 สู่การนับถือพุทธและพราหมณ์  ซึ่งผสมผสานกลมกลืนดังนั้นจะเห็นได้ว่าบรรดานาค
ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์ศาสนา  และสถาบันกษัตริย์  ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการนำลักษณะของงู
หรือนาค  เข้าไปเป็นองค์ประกอบทางงานช่างต่าง ๆ  ที่เกี่ยวเนื่องกับลัทธิความเชื่อดั่งปรากฏ
สถาปัตยกรรมประเภทศาสนาคารในเวลาต่อมา  ส่วนในด้านเอกลักษณ์และรูปแบบ
ก็ย่อมแปลกแตกต่างกันไปตามแต่รสนิยมในเชิงช่างที่สั่งสมถ่ายทอดสืบต่อกันมาในแต่ละ
สายสกุลช่าง  ในกลุ่มวัฒนธรรมไทย-ลาวอีสานชื่อนาคยังปรากฏคำในภาษาถิ่นที่ต่างออกไปอีก
เช่น  งูซวง  ในนิทาน  สังข์สินไซ  และในสารานุกรมไทย  ฉบับปรีชา  พิณทองได้อธิบายว่า
  ลวง  คือ  นางนาค  เรียก  นางลวง  ซึ่งสอดคล้องกับมหาสิลา  วีระวงศ์  ซึ่งอธิบาว่า  “ลวง”
 นี้หมายความว่า  นาค  (ลวงเป็นคำลาว  นาคเป็นคำบาลี)

ที่มา : ติ๊ก แสนบุญ. 2550,31

 
     
 
PREVIOUS        NEXT