งานมหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานีนั้น  มีองค์ประกอบของงานอีกหลาย ๆ  อย่าง  ทำให้ในขณะที่เมื่อมุมหนึ่งของเมือง
มีการเฉลิมฉลองแบบจีน  อีกมุมหนึ่งก็มีเวทีสำหรับการละเล่นดิเกห์อูลูชิงชนะเลิศระดับจังหวัดทำให้ชาวไทยมุสลิมนับพัน
เข้าร่วมชมงานได้อย่างสนุกสนาน
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก่อนปิดงานมีการร่วมกันร้องเพลงสำนึกรักบ้านเกิดกันอย่างครื้นเครงในขณะที่ชาวธุรกิจท่องเที่ยวไทยพุทธ
ก็ได้จัดงานเปิดย่านเก่า  ตลาด  และมีโอกาสได้เข้าร่วมงานในส่วนประกอบอื่น ๆ   ของงานได้อย่างเต็มที่เช่นกัน
                และในเมื่อผู้คนทั้งเมือง  ทั้งชาวไทยเชื้อสายจีน  ชาวไทยมุสลิมและชาวไทยพุทธ  ต่างพากันออกมาร่วมงานเฉลิมฉลองนี้
  เมืองปัตตานีในภาวะที่มีการก่อความไม่สงบบ่อย ๆ  เช่นในปัจจุบัน  ในช่วงงานเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวปีนี้จึงไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเลย
ในทั่วทั้งจังหวัด  จึงดูเหมือนช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองอย่างมีความสุขของชาวปัตตานีอย่างแท้จริง

และในภาวะแห่งความสุขของชาวเมืองปัตตานีเช่นนี้เอง เมื่อไปสำรวจเมืองปัตตานีอย่างกว้างขวาง ไปเยี่ยมเยียนวัดของชาวไทยพุทธ
มากมายหลายแห่งในหลายอำเภอ  พบว่ามีวัดหลายแห่งที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาสักการะเป็นจำนวนมาก 
แต่วันนี้กลับเงียบเหงา  คงมีแต่นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียจำนวนน้อยที่เข้ามาแวะชม  วัดในจำนวนนี้  ได้แก่  วัดช้างให้ 
หรือวัดราษฎร์บูรณะ  วัดที่ประดิษฐานอัฐิและรูปหล่อหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด  ที่เคยเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวไทยพุทธ
ที่ใหญ่ที่สุดในปัตตานี  วัดมุจลินทร์ทวาปีวิหาร  วัดทรายขาว  วัดอรัญวาสิการาม  วัดเหล่านี้ดูเงียบเหงาไปอย่างน่าวิตก 
ส่วนวัดนอกเมืองที่ทรงคุณค่าหลาย ๆ  แห่ง  อย่างวัดบูรพาราม  วัดปิยาราม  เมือยะหริ่ง  วัดควนในเมืองปานาเระ  ทีมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชาวใต้ที่ไม่เหมือนใคร  ถึงวันนี้ก็กลายเป็นค่ายทหารกันไปหมดดูแล้วให้รู้สึก
อ่อนเพลียละเหี่ยใจเป็นอย่างยิ่ง