กาหลอ
|
ที่มา : ใต้...หรอย มีลุย. 2547,66 |
ประวัติความเป็นมา การประโคมกาหลอจะมีขึ้นเมื่อใดไม่มีใครทราบ แต่การประโคมชนิดนี้คงจะเป็นวัฒนธรรมของอินเดียที่แพร่กระจายเข้ามายังแหลมมลายูแต่ครั้งโบราณกาล คำว่ากาหลอน่าจะมากจากคำว่า “กาหลอ” ซึ่งหมายถึง แตรงอน, อึกทึก, วุ่นวาย (๒) ก็อาจจะเป็นได้ แต่บางท่านก็กล่าวว่า กาหลอเป็นคำประสมระหว่างคำ “กา” กับ “หลอ” “กา” หมายถึง อีกา ส่วนคำว่า “หลอ” ในภาษาถิ่นใต้หมายถึง ลื่นหลุดจากที่เกาะ “กาหลอ” ก็คือ กาลื่นหลุดจากที่เกาะ ซึ่งเป็นการกล่าวเปรียบเทียบให้เห็นว่าดนตรีกาหลอมีความไพเราะวังเวงใจเป็นอย่างยิ่งนั่นเอง (๓) กาหลอมีขึ้นเมื่อใดไม่มีใครทราบ แต่จากตำนานที่เล่าสืบต่อมากันมายังสับสนอยู่มากนั้นพอจะสรุปได้ว่า กาหลอน่าจะกำเนิดขึ้นในสมัยพุทธกาล (ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดแน่ชัด) ผู้ดำริให้มีขึ้นคือพระพุทธเจ้า ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นเครื่องประโคมแห่นำเศียรของมหาพรหม การที่ใช้กาหลอประโคมแห่นำเศียรมหาพรหมมีตำนานประกอบเล่าสืบต่อกันมาเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้เล่นกาหลอดังนี้ มีพี่น้องคู่หนึ่งคือมหาพราหมณ์และมหาพรหม วันหนึ่งมหาพรหมผู้น้องได้ถามปัญหาแก่มหาพราหมณ์ผู้พี่เรื่อง “มนุษย์ 3 ราศี” เมื่อมหาพราหมณ์ตอบไม่ได้ก็ได้ให้เวลา 7 วัน เพื่อหาคำตอบ ถ้าตอบไม่ได้ก็จะกระทำพิธีตัดเศียรของมหาพราหมณ์ แต่ถ้าตอบได้ตัวเองก็ยินยอมให้ตัดเศียรเช่นเดียวกัน มหาพราหมณ์คิดตอบปัญหาอยู่จนกระทั่งเวลาล่วงไป 5 วัน ก็ไม่สามามารถตอบได้ จึงหนีเข้าป่า _________________________ (๑) ขุนอาเทศคดี (กลอน มัลลิกะมาศ) ผู้ให้สัมภาษณ์ ชวน เพชรแก้ว ผู้สัมภาษณ์ ณ บ้านเลขที่ 253 ถนนท่าชี อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๒. (๒) ประทุม ชุ่มเพ็งพันธุ์ “กาหลอ” วิชชาฉบับชีวิตไทยปักษ์ใต้๒ (๑) : ๑๗๓, มิถุนายน – กันยายน 2519. (๓) ดิเรก พรตตะเสน ผู้ให้สัมภาษณ์ ชวน เพชนแก้ว ผู้สัมภาษณ์ ณ วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อ ๑๑ ตุลาคม ๒๔๒๒. |