เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 16 ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2495 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทยเพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่คนตาบอดแล้วพระราช ทานให้นำไปบรรเลงในงานสมาคมช่วยคนตาบอดในพระบรม ราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2495 ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์ในปีต่อมา

ยิ้มสู้

โลกจะสุขสบายนั้นเป็นได้หลายทาง
ต้องหลบสิ่งกีดขวางหนทางให้พ้นไป
จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ
สุขและทุกข์อย่างไรเพราะใจตนเอง
ฝ่าลู่ทางชีวิตต้องคิดเฝ้าย้อมใจ
โลกมืดมนเพียงใดหัวใจอย่าคร้ามเกรง
ตั้งหน้าชื่นเอาไว้ย้อมใจด้วยเพลง
ไยนึกกลัวหวาดเกรงยิ้มสู้
คนเป็นคนจะจนหรือมี
ร้ายหรือดีคงมีหวังอยู่
ยามปวงมารมาพาลลบหลู่
ยิ้มละมัยใจสู้หมู่มวลเภทภัย
ใฝ่กระทำความดีให้มีจิตโสภา
สร้างแต่ความเมตตาหาความสุขสันต์ไป
จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ
เฝ้าแต่ยิ้มสู้ไปแล้วใจชื่นบาน

เกิดเป็นไทย ตายเพื่อไทย
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง:  ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค

เกิดเป็นไทยแล้วใจต้องสู้
ถิ่นไทยเรารู้เรารักยิ่ง
ศัตรูหน้าไหนไม่เกรงกริ่ง
หากมาช่วงชิงตายเสียเถิด
เผ่าไทยเดิมล้วนคนใจเด็ด
แกร่งดังเหล็กเพชรชูชาติเชิด
ต่างรักษาไว้แดนกำเนิด
เกิดเป็นไทยแล้วจำใส่ใจ
ปกครองรักษาทำหน้าที่
ห่วงเมืองไทยนี้ให้ยิ่งใหญ่
สิ้นเมืองไทยแล้วใครอยู่ได้
ชาติไทยคงไร้ความเสรี
เผ่าไทยเราพร้อมอาสาสมัคร
เด็ดเดี่ยวยิ่งนักยอมชีพพลี
เสี่ยงภัยทั้งผองปองความดี
ปกป้องปฐพีตายเพื่อไทย

ไร้เดือน
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค

     ไร้เดือน
รักน้องนั้นหวานชื่น
งามดวงหน้าติดตราตรึงใจไซร้
ไร้เดือนเลือนไม่แลเห็น
     ไร้ดาว
สายรักแสนสูงส่ง
ถึงใครอื่นชื่นชมเดือน
แต่เราเชิดหน้า

เหมือนดังฟ้าที่ไร้แสงส่อง
รื่นรมย์ชมพักตร์แทนเดือน
ยิ้มรื่นใครจะมาเหมือน
ก็เป็นสุขใจไม่วาย
มืดในหาวไม่เห็นแหนงหน่าย
มั่นคงในดวงวิญญาณ์
ฝันใฝ่ดาวบนฟ้า
รสความรักไม่ร้างรา