ที่มา : เทศกาลทิ้งกระจาดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง    http://pohtecktung.org/index.php?option

ทิ้งกระจาดคืออะไร ?
          คำว่า "กระจาด" ในที่นี้แปลว่าอะไร? ถ้าจะหาความหมายจากพจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถาน ก็เห็นจะไม่ได้ เพราะพจนานุกรมได้ให้ไว้แต่เพียง "ภาชนะสานรูปเตี้ยๆ ปากกว้าง ก้นกระสอบ" อย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นก็ต้องหาเอาจากที่อื่น
          พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ สมัยรัชกาลที่ 2 ตอน "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ามงกุฏทรงผนวช สามเณร" กล่าวว่า 
          "ครั้นถึงเดือนสิบสอง ขึ้นแปดค่ำ (สามเณรสมเด็จเจ้าฟ้ามหามงกุฏ) ได้ถวายเทศน์ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ทรงพระราชศรัทธาโดยลำพังพระองค์ ตั้งโรงใหญ่ในวังนอกเป็นการบูชา การทำ กระจาดใหญ่ ครั้งนั้นเป็นการเอิกเกริก คนมาดูเป็นอันมาก"
          ในสมัยรัชกาลที่ 4 ตอน "การเทศนากระจาดใหญ่" กล่าวว่า 
          "... แล้วทรงพระราชดำริว่า จะทำกระจาดใหญ่สนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระบรมไอยกาธิราชเจ้า กระจาดหนึ่ง, พระบาทสมเด็จฯ พระชนกาธิราช กระจาดหนึ่ง, พระบาทสมเด็จฯ พระเชษฐาธิราชเจ้า กระจาดหนึ่ง,   ทั้งสามพระองค์จึงขอแรงสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ทำกระจาดหนึ่ง, สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยทำกระจาดหนึ่ง, เจ้าพระยานิกรบดินทร์ทำกระจาดหนึ่ง   ให้ตั้งที่หน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท นอกกำแพงแก้วฝ่ายอุตตรทิศ  กระจาดสูง 6 วาตลอดยอด กว้าง 4 วา จัดเรียงกันไปทั้ง 3 แห่ง มีเครื่องไทยธรรมถวายพระเทศนากระจาดละ 10 ส่วน...  มีพุ่มกัลปพฤกษ์กระจาดหนึ่ง 10 พุ่ม พุ่มละ 10 ตำลึงเรือ สำปั้นเก๋งพังกระจาดละ 10 ลำ ผ้าไตรและเครื่องบริขารกระจาดละ 10 สำรับ...  ครั้นเสร็จแล้ว วันเดือน 1 แรม 4 ค่ำ มีพระธรรมเทศนาในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท...  พระพิมลธรรม วัดประยุรวงศ์ ถวายเทศนาพงศาวดารบริเฉท 1, พระธรรมวโรดม (ถึก) วัดพระเชตุพน ถวายเทศนาพงศาวดาร บริเฉท 2, วันเดือน 1 แรม 5 ค่ำ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ถวายเทศนาทศพร...  พระเทศนาได้รับในส่วนกระจาดแบ่งถวายเป็นส่วนๆ ไป 30 ส่วน  องค์หนึ่งได้ของไทยทานประมาณ 2 ชั่งเศษบ้าง 3 ชั่งเศษบ้าง " 
          ตอน "สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงผนวชสามเณร" ว่า "... ครั้นส่งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ แล้วเสด็จกลับมาพระบรมมหาราชวัง รับสั่งให้พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส ทำกระจาดใหญ่ เหมือนอย่างแผ่นดินสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดฯ ให้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ทำกระจาดใหญ่ ถวายกัณฑ์เทศน์แด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อทรงผนวชสามเณรนั้น..."
          นอกจากกระจาดถวายพระเทศน์แล้ว กระจาดถวายพระฉันก็มี การนิมนต์พระไปฉันแล้วมีถวายของพระกลับมา ก็เรียกว่าฉันกระจาด ถ้าฉันแล้วกลับมาเฉยๆ ไม่มีสิ่งของที่เรียกว่าเครื่องไทยทานถวายติดมือกลับมา ไม่เรียกว่าฉันกระจาด ดังจะเห็นได้ใน เรื่องรามเกียรติ์ สมัยรัชกาลที่ 2 ตอนที่สังฆการี ไปนิมนต์พระฤๅษีมาฉันที่ในวัง...
" บัดนั้น 
สังฆการีแจ้งความจามรับสั่ง 
นิมนต์สวดพิธีที่ในวัง  
สิ้นทั้งคณะพระสิทธา  
อันสำรับกับข้าวของฉัน 
มัสหมั่นข้าวบุหรี่มีนักหนา  
ไก่พะแนงแกงต้มยำน้ำยา  
สังขยาฝอยทางของชอบใจ 
" เมื่อนั้น 
พระดาบสฟังเล่าน้ำลายไหล  
ของฉันขยันยิ่งทุกสิ่งไป  
แต่กระจาด มีหรือไม่จะใคร่รู้ "
          สรุปแล้ว กระจาดก็คือ สิ่งของที่ถวายพระ 
          แต่สำหรับคนสามัญแล้วก็คือ ของให้ทานนั่นเอง และเนื่องจากสิ่งของที่จะให้ทานนั้นมีน้อยกว่าผู้ที่รับทาน จะแบ่งกันมันก็ไม่ลงตัว ครั้นจะเอาของนั้นมาให้แย่งกันหรือ ของนั้นก็จะฉีกขาด แตกทำลายเสียสภาพหมด จึงได้เอาของนั้นตั้งไว้เฉยๆ ทำเบอร์ติดเข้าให้ตรงกันกับติ้ว แล้วก็เอาติ้วมาทิ้ง ใครแย่งได้ติ้วเบอร์อะไรก็ไปขึ้นเอาของตามเบอร์ นี่คือการทิ้งกระจาด 
          การทิ้งกระจาดนี้มีมานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งมีแต่ที่วัดกัลยาณ์นี้เท่านั้น ดังปรากฏในพงศาวดารรัชกาลที่ 3 ว่า 
          "... ในปีวอก ฉศกนั้น เมื่อ ณ วันพุธ เดือน 9 แรม 8 ค่ำ (17 สิงหาคม 2367) มีงานทิ้งกระจาด และมีงิ้วที่บ้านหนองปรือ..."  (แต่พจนานุกรมของเราไม่ยักมี)
( ทิ้งกระจาด http://www.lib.ru.ac.th/journal/krajard.html )

        
  
ที่มา : เทศกาลทิ้งกระจาดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง    http://pohtecktung.org/index.php?option

ดร.อุเทน  เตชะไพบูลย์   อดีตประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  เคยพูดไว้ว่า   เนื้อแท้ของการทำบุญในเทศกาลทิ้งกระจาดมีความสำคัญอยู่  2  ประการ   กล่าวคือ   “…ทิ้งกระจาดมีความหมายสำคัญ  2  อย่างที่เราเรียกว่า   “ อิ๋มซี   และ   เอี่ยงซี “   อิ๋ม ( 音 )   คือวิญญาณ เอี๋ยง ( 陽) คือชีวิต   ซี  ( 施 ) คือการแจก  พิธีทิ้งกระจาด คือ การทำบุญอุทิศให้ดวงวิญญาณ ร่วมไปกับการแจกทานให้ผู้มีชีวิตที่ยากไร้  งานทิ้งกระจาดจึงต้องทำทั้ง  2  ส่วน   ทำบุญกันในศาลเจ้าก่อน     แล้วจึงมาแจกของ…..”     จึงสอดคล้องกับจริยวัตรขององค์หลวงปู่ไต้ฮงโจวซือ ผู้ซึ่งช่วยทั้งผู้ที่เสียชีวิตโดยไร้ญาติขาดมิตร    และช่วยสงเคราะห์ผู้ยากไร้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้    เทศกาลทิ้งกระจาด  จึงเป็นเทศกาลที่ครบถ้วนทั้ง  “ ทำบุญและให้ทาน ”

               ประเพณีทิ้งกระจาด    เป็นความเชื่อของพุทธบริษัทจีนฝ่ายมหายาน  ประเพณีที่ถือปฏิบัติมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยพุทธกาลสองพันกว่าปีล่วงมาแล้ว     ในสมัยนั้นเล่ากันว่าพระอานนท์     เป็นเถระผู้เริ่มทำเป็นองค์แรก     โดยพระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระอานนท์ทำการสะเดาะเคราะห์  เพื่อให้รอดพ้นจากบ่วงกรรม ให้พระอานนท์ทำพิธีกรรมอุทิศส่วนกุศลแก่เปรต  และ    ดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว   โดยการนิมนต์พระภิกษุสงฆ์สวดพระพุทธมนต์       แล้วแจกจ่ายสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค   เป็นไทยทานแก่สัตว์โลกผู้ยากไร้ทั้งหลาย และ  อุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณที่กำลังทนทุกข์อยู่ในนรกภูมิ  หรือ  ที่ล่องลอยเที่ยวขอส่วนบุญ   ด้วยไร้ญาติ  หาที่จุติมิได้
                   ความมีอยู่ว่า   พระอานนท์ตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาถึงตำบลนิโครธาราม   กรุงกบิลพัสดุ์   เมื่อตั้งกรดปักธุดงค์นอกเมืองแล้ว      พระอานนท์ได้ปลีกวิเวกออกไปบำเพ็ญเพียรห่างไกลจากสาวกทั้งหลาย   ปรากฏว่ามีเจ้าแม่กวนอิมได้แปลงกาย       เป็นผีเปรตอสูรกายมาปรากฏตัว  และ แจ้งให้ทราบว่า  พระอานนท์จะถึงแก่ความตายในอีก  3  วันข้างหน้า   หากไม่อยากตายแล้วไปอยู่กับพวกตน  พระอานนท์ต้องทำบุญทำทานให้บรรดาผู้ยากไร้  และ ผีเปรตอสูรกายทั้งหลาย    พระอานนท์เป็นพหูสูต      ได้ฟังดังนั้นก็รู้แจ้งเห็นจริงตามที่ผีเปรตมาบอก  พระอานนท์มีความกังวลจึงเข้าเฝ้าสัมมาสัมพุทธเจ้า และ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระพุทธองค์จึงได้สอนให้พระอานนท์ทำพิธีสะเดาะเคราะห์  แต่เนื่องจากการจะโปรดอสูรกาย   วิญญาณที่ล่องลอยอยู่นั้น ไม่อาจทำได้ด้วยวิธีการให้ทานธรรมดา   ต้องอาศัยส่งส่วนบุญด้วยพุทธนุภาพ  ดังนั้นจึงต้องประกอบพิธีสันนิบาตพุทธจักร   นั่นก็คือต้องถึงพร้อมด้วย   พระพุทธ    พระธรรม  พระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่มาของประเพณีทิ้งกระจาด   ที่พุทธบริษัททั้งหลายอนุโมทนา  เลื่อมใส   ถือปฏิบัติต่อกันมานับพันปี เพราะภายหลังจากประกอบพิธีให้ทานในคราวนั้น ทำให้พระอานนท์มีชีวิตยืนยาวต่อมาอีกหลายปี    ทั้งนี้เนื่องมาจากกุศลผลบุญที่ได้กระทำในครั้งนั้น  กาลเวลาได้ปรับเปลี่ยนให้การดำเนินพิธีกรรมแตกต่างออกไปจากดั้งเดิม  ตามสภาพของแต่ละท้องถิ่น

(  เทศกาลทิ้งกระจาด มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง       http://pohtecktung.org/index.php?option=com )

 
 
<<< PREVIOUS     NEXT >>>