เค้านิทานที่มาของการทิ้งกระจาด
ชาวจีนที่นับถือพุทธศาสนา ก็ไม่ต่างจากคนไทยที่เป็นชาวพุทธมากนัก มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น
จากเมืองมาตุภูมิ คือบนผืนแผ่นดินมาแต่ครั้งบรรพบุรษ
พอจะสาธกยกนิทานชาดกทางพุทธศาสนา มาประกอบเป็นเค้าโครงได้ ก็จะยกเอามาเล่าเป็น
นิทานสู่กันฟังเสมอ
แม้แต่เรื่องการทิ้งกระจาด ที่จริงก็เป็นพิธีทำบุญให้ทานแก่ผู้คนที่ยากจน หาเช้ากินค่ำ มีความลำบากอดอยากกว่าตนเป็นการสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ให้เขาอยู่ร่มเย็นเป็นสุขเปลื้องทุกข์คลายความอดอยากไปได้ปีหนึ่งคราวเดียว ก็นับวาเป็นบุญเป็นกุศลหนักหนาแล้ว
ก็แลด้วยบุญส่วนนี้แม้จะได้บุญแบบรูปธรรมคือผู้ให้ได้พบได้เห็นการทำบุญให้ทานด้วยตาตนเองแล้ว ยังมีจุดหมายแบบนามธรรมอีกอย่างหนึ่ง
นั่นคือการอุทิศส่วนกุศลผลทานนั้นไปให้วิญญาณฝีไม่มีญาติคือผีไร้ญาติขาดมิตรที่ไม่เคยมีใครกรวดน้ำ
คว่ำขันไปถึงเขาเลยอีกต่อหนึ่ง
นับว่าเป็นการทำบุญให้ทานได้ผลานิสงส์ 2 ชั้น
ทำบุญต่ออายุ
ตามคตินิกายพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน มีเรื่องกล่าวไว้ในพระสูตร ความว่า :-
อดีตในสมัยพุทธกาล พระพุทธสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จประทับอยู่ ณ นิโครธาราม (วัดที่พระประยูรญาติสร้างถวายพระพุทธองค์ อยู่ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์) พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวกห้อมล้อมเพื่อ
ฟังพระธรรมเทศนา
กาลครั้งหนึ่งนั้น พระอานนท์ พุทธอุปัฏฐาก ได้นั่งสมาธิบำเพ็ญเพียรอยู่ในที่สงัดวิเวกแต่องค์เดียว
ครั้นเวลาดึกสงัด พระอานนท์ได้ทอดสายตาแลเห็นอสุรกาย (พวกผีอบายผู้อดอยาก เที่ยวโจรกรรมหากินในเวลากลางคืน) ตนหนึ่งมีร่างกายซูบผอมเหี่ยวแห้ง เนื้อติดโครงกระดูก มีเปลวเพลิง
พุ่งออกมาจากปาก ลำคอเท่ากับรูเข็ม มีผมบนศีรษะรกรุงรัง อีกทั้งมีเขี้ยวงอกออกมาจากปาก สภาพน่าสะพรึงกลัว
บอกข่าวร้ายแด่พระอานนท์
อสุรกายตนนั้นปรากฏกายเข้ามา นั่งประนมมือต่อหน้าพระอานนท์ ขณะที่ท่านกำลังเข้าสมาธิจิต แล้วบอกท่านว่า
“อีก 3 ราตรี พระคุณเจ้าจักมรณภาพ แล้วพระคุณเจ้าจะมีเรือนรน่างอย่างข้าพเจ้า...”
พระอานนท์รู้สึกหวาดกลัวต่อความตายมาก เพราะท่านขณะนั้นยังเป็นพระเสขะ (ยังไม่บรรลุพระอรหันต์) จึงได้ซักถามอสุรกายไปว่า
“ดูก่อน อสุรกาย เพราะเหตุใดหรือ อาตมาภาพจึงจะพ้นจากภัยเช่นว่ามานั้น”
ฝ่ายอสุรกายจึงนมัสการกราบเรียนพระเถระว่า
“พระคุณเจ้า ถ้าอยากจะให้พันมรณภัย คือความตาย ก็ขอให้พระคุณเจ้าบูชาคุณพระรัตนตรัย คือ
พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์” พระอานนท์เถระซักถามต่อไปอีกว่า
“ยังมีอะไรที่อาตมาภาพจักต้องทำต่อไปอีกหรือไม่อย่างไร”
อสุรกายจึงนมัสการ และตอบคำถามพระเถระไปว่า
“ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ท่านจะต้องทำการบริจาคทานแก่เหล่ายาจก (คนยากจน ขอทาน) วณิพก (คนขอทานด้วยร้องเพลงตอบแทน) คนเข็ญใจ ยากไร้อดอยาก แล้วแผ่กุศลผลบุญไปให้แก่เหล่าอสุรกายทั้งหลาย แล้วพระคุณเจ้าก็จักมีอายุยืนต่อไป”
“ส่วนอสุรกายเหล่านั้น จักได้อาศัยส่วนกุศลที่พระคุณเจ้าอุทิศให้ จักได้พากันพันทุกข์ภาวะแล้ว
ไปสู่สุคติต่อไป..” |