พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องในการทิ้งกระจาด
พิธีเปรตพลีโยคกรรม
พิธีเปรตพลีโยคกรรม (หยู่แคเอี่ยมเข้า) หรือปั้งเอี่ยมเข้า นี้ เป็นพิธีทางพระพุทธศาสนานิกายมนตรยาน ซึ่งเรียกพิธีกรรมในนิกายว่าโยคกรรม ในการประกอบพิธีจะต้องจัดมณฑลพิธีและที่บูชาเป็นสามส่วนคือ
ที่บูชาแรกเป็นที่ประดิษฐานเครื่องบูชาพระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานพร้อมด้วย เหล่าพระโพธิสัตว์และพระธรรมบาล
ที่บูชาที่สองเป็นที่บูชามหาโพธิสัตว์ (ไต่สือเอี้ย) นิยมทำรูปพระมหาโพธิสัตว์ด้วยกระดาษมีขนาดใหญ่มากบางแห่งสูงเท่าตึกสามชั้น พระมหาโพธิสัตว์หรือไต่สือเอี้ย คือพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์หรือพระกวนอิมโพธิสัตว์ที่แบ่งภาคลงมาปรากฏกาย ต่อพระอานนท์ ณ นิโครธารามวิหาร เมืองกบิลพัสดุ์ ตามเรื่องในพระสูตรจากพระไตรปิฎกจีน
ที่บูชาวิญญาณผู้ล่วงลับ เป็นที่เซ่นไหว้ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ ทั้งที่มีญาติและไร้ญาติซึ่งบุตรหลาน ญาติมิตรหรือประชาชนทั่วไปมาวางเครื่องเซ่นไหว้อุทิศให้
พิธีเริ่มจากพระสงฆ์อัญเชิญพระรัตนตรัยเป็นประธาน มีพระศากยมุนีพุทธเจ้า พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระอานนท์เถรเจ้า เป็นอาทิ จากนั้นพระสงฆ์จะเดินไปสวดพระพุทธมนต์ยังที่บูชาพระมหาโพธิสัตว์ และที่บูชาวิญญาณผู้ล่วงลับตามลำดับ จากนั้นพระภิกษุผู้เป็นประธานสงฆ์ เป็นผู้ประกอบพิธีเรียกว่า พระวัชรธราจารย์ หรือกิมกังเสี่ยงซือ จะ ขึ้นสู่อาสน์ประธานมณฑลพิธีเพื่อเริ่มประกอบพิธี โดยพระวัชรธราจารย์จะเป็นตัวแทนของพระโพธิสัตว์ประกอบพิธีโปรดสรรพสัตว์ พระวัชรธราจารย์จะสวมไวโรจนมาลาและมีพุทธชญานมงกุฏที่ด้านหน้า หมายถึงพระโพธิสัตว์ผู้ประกอบด้วยพระพุทธบารมี แห่งองค์พระชินเจ้าทั้งห้า คือพระไวโรจนพุทธเจ้า, พระอักโษภยพุทธเจ้า, พระรัตนสัมภวพุทธเจ้า, พระอมิตาภพุทธเจ้า, พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า, ทั้งห้าพระองค์
การประกอบพิธีจะแบ่งเป็นสองภาคคือ ส่วนแรกประกอบพิธีถวายพุทธบูชา และส่วนที่สองเป็นพิธีโปรดสัตว์ เริ่มด้วยการเจริญพระพุทธมนต์ ชำระมณฑลพิธีให้บริสุทธิ์ด้วยพลังแห่งพระสัทธรรม ระหว่างประกอบพิธีพระวัชรธราจารย์จะใช้วัชรฆัณฏา คือ กระดิ่งวัชระ วัชรศาสตราและวัชรคธา คือเครื่องหมายรูปวัชระหรือสายฟ้าเป็นตัวแทนพระธรรม ซึ่งประดุจธรรมาวุธของพระโพธิสัตว์ ที่ใช้ในการปราบมาร คือกิเลสทั้งหลาย ให้หมดสิ้นไปจากเหล่าสัตว์โลก และประกอบพิธีถวายเครื่องพุทธบูชาทั้ง ๖ อันได้แก่ ปุษปะคือดอกไม้ ธูปะคือเครื่องหอม อาโลกะคือประทีปโคมไฟ สุคนธะคือน้ำหอม ไนเวทยะคือเครื่องบูชาพลีกรรม และศัพทะคือเสียงดนตรีประโคม เป็นเครื่องบูชาแด่พระรัตนตรัย และอัญเชิญพระมหากรุณาบารมีแห่งพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ มาเป็นธรรมพละเพื่อใช้ในการโปรดสัตว์ ส่วนที่สองพิธีโปรดสัตว์นั้นจะเริ่มอัญเชิญพระกษิติครรภโพธิสัตว์ผู้ทรงมหา ปณิธานในการโปรดสัตว์นรก พระยายมราชทั้ง ๑๐ ขุม และดวงวิญญาณ ทั้งหลายในภูมิทั้งหก คือเทพ, อสูร, มนุษย์, สัตว์เดรฉาน, เปรต, สัตว์นรก และรวมทั้งเหล่าพาหิรลัทธิ ให้มาชุมนุมเพื่อรับฟังพระสัทธรรม จากนั้นจึงอัญเชิญพระบารมีแห่งอดีตพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ คือ ๑. พระรัตนชัยตถาคต ๒. พระอภยังกรตถาคต ๓. พระวิปุลกายตถาคต ๔. พระสุรูปกายตถาคต ๕. พระประภูตรัตนตถาคต ๖. พระอมิตาภตถาคต ๗. พระโลกวีสตีรนเตชอีศวรประภาตถาคต ทั้งเจ็ดพระองค์ และประกอบมุทราคือการทำมือเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ ของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ และการเพ่งจิตยังสัตว์โลกทั้ง ๖ ในไตรภูมิ ที่ทนทุกข์ทรมานให้ยึดพระสัทธรรมเป็นดุจมหาธรรมนาวา ช่วยขนสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกขเวทนา ระหว่างพิธีพระสงฆ์จะโปรยข้าวสาร ทิพยวารี และขนม เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนพระธรรม และกุศลบุญ อันเป็นอาหารที่จะเหล่าวิญญาณหิวโหยต้องการ สุดท้ายพระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ส่งวิญญาณของเหล่าสรรพสัตว์ไปยังสุขาวดี และอุทิศผลานิสงส์ในการประกอบพิธีให้แก่ผู้บำเพ็ญทาน และผู้ร่วมพิธีโดยทั่วกัน ระหว่างการประกอบพิธี หรือหลังการประกอบพิธี ทางเจ้าภาพมักจัดอาหารหรือเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อแจกเป็นทานแก่ประชาชน ที่ยากไร้ ในการแจกอาหารเครื่องใช้เหล่านี้ มักนิยมแจกจำนวนมากตามกำลังของเจ้าภาพ แต่ส่วนใหญ่มักจะทำกันจำนวนมากๆ ทุกปี
|