การผสมพันธุ์นก (ต่อ)

         อาหารหลัก ข้าวเปลือก  เป็นข้าวเปลือกเมล็ดสั้น ล้างน้ำเพื่อขจัดสิ่งปนเปื้อนที่ปนมากับข้าวเปลือก แล้วตากแดดให้แห้ง เวลาล้างข้าวเปลือกขัดถูขนของเมล็ดข้าวให้เกลี้ยงก็ยิ่งดี เวลานกจิกกินจะได้ไม่ฝืดคอ
         น้ำสะอาด น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต น้ำนั้นจะเป็นน้ำฝน หรือน้ำประปาก็ได้ หากเป็นน้ำประปาควรเปิดใส่โอ่งไว้ประมาณ 3 วัน เพื่อให้กลิ่นคลอรีนหมดไป แต่ที่ต้องเน้นเป็นพิเศษคือความสะอาด ภาชนะที่ใส่น้ำถ้าดีควรใช้ภาชนะที่ใช้สำหรับใส่น้ำให้ไก่ เนื่องจากช่องน้ำดื่มมีขนาดเล็ก ลูกนกไม่ตกน้ำอย่างใช้อ่างปากกว้างๆ  ขนาดของภาชนะนั้นจะเป็นขนาด เล็ก กลาง หรือ ใหญ่ ก็ได้

   ดินดำ เป็นยาโบราณ สามารถหาซื้อได้จากพ่อค้าที่จำหน่ายอาหารนกเขาชวา หรือจะทำเองก็ไม่ยาก โดยใช้ดินปลวกนำมาเผาไฟฆ่าเชื้อ แล้วตำให้ป่นผสมกับสมุนไพร ซึ่งเป็นยารักษาโรคตามธรรมชาติ เช่น ใบกะเพรา ใบมันเทศ เป็นต้น ดินดำช่วยเป็นยาระบาย
         ทราย ช่วยในการย่อยอาหาร จะใช้ทรายน้ำจืด หรือ ทรายทะเลก็ได้ ถ้าเป็นทรายทะเลก็จะมีเปลือกหอยปนอยู่ เปลือกหอยมีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก และเปลือกใข่นก ทรายควรล้างน้ำให้สะอาดเช่นเดียวกัน

        อาหารเสริม ช่วยทำให้พ่อแม่นก และ ลูกนก ที่จะเกิดใหม่สมบูรณ์มากขึ้น ได้แก่ ข้าวฟ้างดำ แดง เหลือง มิลเล็ด เป็นต้น
        หากจะช่วยให้การผสมพันธุ์ดียิ่งขึ้นควรผสมวิตามิน(ชนิดผง)ผสมลงไปในอาหารเสริม หรือ ข้าวเปลือก ก็ได้
        เมื่อเตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้วก็ถึงเวลาที่จะปล่อย พ่อนก และ แม่นกสู่กรงผสม แต่ก่อนปล่อยนกลงกรงผสมพันธุ์ควรใช้ยางเส้นหรือเทปใสมัดขนปีกนกเพศผู้ ประมาณ 5 เส้น เพื่อว่าเวลานกเพศผู้ไล่จิกตีนกเพศเมียเพราะยังไม่คุ้นเคยกัน จะไล่จิกตีไม่ทัน บางครั้งนกเพศผู้ที่ดุ ๆ จะจิกตีนกเพศเมียจนบาดเจ็บและถึงตายได้

        เมื่อปล่อยนกทั้ง 2 สู่กรงแล้วประมาณ 5 – 15 วัน บางครั้งก็อาจจะนานกว่านี้ นกจึงจะเข้ากันได้ดี เมื่อนกเข้ากันได้ดีแล้วจะตัดยางที่มัดออกหรือไม่ตัดออกก็ได้ เมื่อนกเพศผู้ขึ้นทับนกเพศเมียแล้ว ใกล้ถึงเวลานกเพศเมียจะออกไข่ นกทั้งสองตัวก็จะช่วยกีทำรัง โดยคาบเศษหญ้า หรือใบสนที่เราใส่ไว้ในกรง  นกเมื่อผสมพันธุ์จะออกไข่ครั้งละ 1 – 2 ฟอง
และใช้เวลาในการฟักไข่ ประมาณ 16 – 18 วัน ลูกนกก็จะแตกจากเปลือกไข่เป็นตัว จะได้ลูกนกตามที่ตั้งใจไว้  ก่อนที่ลูกนกจะแตกจากใข่สังเกตให้ดีๆ จะพบว่าพ่อและแม่จะช่วยกันฟักไข่ และนกผู้เป็นพ่อจะขยันร้องเป็นพิเศษ เป็นการแสดงความดีใจที่ลูกของตนจะลืมตามาดูโลกแล้ว ส่วนลูกนกเกิดมาแล้วจะดีหรือไม่นั้นก็ต้องรอฟังเสียงร้องในโอกาสต่อไป 
   

ภาพประกอบ    ที่มา : นกเขาชวา    http://www.google.co.th/imglanding?
 
PREVIOUS     NEXT