พิธีกรรม

พิธีกรรมโนราโรงครูทั้งโรงครูใหญ่และโรงครูเล็กมีธรรมเนียมอย่างเดียวกัน  แต่รายละเอียดของพิธีกรรมบางอย่าง  เช่น  รำคล้องสงห์  รำแทงเข้  (จระเข้)  ครอบเทริด  จะทำกันในโนราโรงครูใหญ่เท่านั้น  นอกจากนี้โนราโรงครูในแต่ละพื้นที่อาจจะมีข้อแตกต่างกันบ้าง  พิธีกรรมต่าง ๆ เช่นการตัดจุก  เหยียบเสน  ตัดผมผีช่อ  การรำถีบหัวควาย  จะมีหรือไม่มีก็ได้  ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าภาพและผู้เกี่ยวข้อง  สำหรับโนราโรงครูใหญ่ซึ่งทำ  3  วันมีขั้นตอนการจัดพิธีกรรมดังนี้
                พิธีกรรมในวันแรก  พอพลบค่ำที่เรียกว่า  “เวลานกชุมรัง”  คณะโนราจะเข้าโรง  เจ้าภาพนำหมากพลูไปรอรับโนราที่หน้าบ้าน  คณะโนราจะขนอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าโรงพร้อมกับประโคมเครื่องดนตรีเอาฤกษ์เรียกว่า  “ตั้งเครื่อง”  แล้วทำพิธี  “เบิกโรง”  เพื่อเชิญครูหมอโนราให้มาชุมนุมในโรง  พิธีเริ่มจากเอาพานดอกไม้ธูปเทียน  2  พาน  พานแรกวางไว้เป็นพานครู  พานที่  2  เอาเทียน  3  เล่ม  หมาก  3  คำ  ค่ากำนล  3  บาท  หรือ  12  บาท  เล็บสำหรับสวมนิ้วมือ  3  อัน  กำไลมือ  3  วง  จัดใส่พานจุดเทียน  3  เล่มพร้อมกับเทียนใหญ่ที่เรียกว่า  “เทียนครู”  นำเทียน  3  เล่มไปปักไว้ที่กลอง  1  เล่ม  พร้อมกับหมากพลู  1  คำ  อีก  2  เล่มปักไว้ที่ทับใบละ  1  เล่ม  หมากพลูใบละ  1  คำ  จุดเทียนที่เครื่องสังเวย  บนหน้าพราน  หน้าทาสี  บนยอดเทริด  โนราใหญ่ผู้ร่วมพิธียกพานหมากจุดเทียนอีก  1  เล่ม  จับสายสิญจน์ที่ต่อจากเพดานหิ้งบูชาครูหมอโนรา  หรือตายายโนราบนบ้านเจ้าภาพมายังโรงโนรา  ตั้งนะโม  3  จบกล่าวชุมนุมเทวดา  กล่าวชุมนุมครู  ทำพิธีซัดหมาก  เอาหมากคำแรกซึ่งวางไว้ที่กลอง  ไปเหน็บหลังคาโรงเพื่อบูชาเทวดา  หมากคำที่  2  ซึ่งวางไว้ที่ทับใบแรกไปสอดไว้ใต้เสื่อ  เพื่อบูชานางธรณี  หมากคำที่  3  วางไว้ที่ทับใบที่  2  พร้อมกับเทียน  1  เล่ม  นำมาสอดเข้าไปในกำไลมือก่อน  3  รอบ  แล้วจึงซัดเข้าไปในทับ  ตีทับรัว  ลูกคู่จะตีดนตรีอื่น ๆ ขึ้นพร้อมกันเป็นเสร็จพิธี

                          
 
                    

ต่อมาโนราจะ  “ลงโรง”  คือประโคมดนตรีล้วน ๆ ประมาณ  12  เพลง  จบแล้วทำพิธีร้อง  ”กาศครู”  เพื่ออธิษฐานคารวะครู  โดยมีบทร้อง  4  บทคือ  “บทขานเอ”  “บทร่ายแตระ”  “บทเพลงโทน”  ดังตัวอย่าง

                                                                บทขานเอ
                รื่นเหอรื่นรื่น                                                        จะไหว้นางธรณีผึ่งแผน
เอาหลังมาพิงเป็นแท่น                                                      รองตีนมนุษย์ทั้งหลาย
ตีนซ้ายรองหญิง                                                                  ยังเล่าตีนขวารองชาย
นาคเจ้าฤาสาย                                                                      ขานให้โนเนโนไน
ขานมาชาต้อง                                                                      ทำนองเสมือนวัวชักไถ

                                                                บทหน้าแตระ
                ฤกษ์งามยามดี                                                      ปานี้ชอบยามพระเวลา
ชอบฤกษ์ร้องเชิญ                                                                ตำเหนินราชครูถ้วนหน้า
ราชครูของน้อง                                                                    ลอยแล้วให้ล่องเข้ามา
ราชครูของข้า                                                                       มาแล้วพ่ออย่าพ้นไป

                                                                บทร่ายแตระ
                ลูกกาศราชครูเท่านั้นแล้ว                                  ผ่องแผ้วเป็นเพลงพระคาถา
ลูกไหว้นางหงส์กรงพาลี                                                   ไหว้นางธรณีเมขลา
ไหว้บริถิวราชา                                                                    ภูมาหาลาภมหาชัย
ลูกไหว้แม่โภควดี                                                                ธรณีเนื้อเย็นได้เป็นใหญ่

                                                                บทเพลงโทน
                หัตถ์ทั้งสองประคองตั้ง                     ยกขึ้นเหนือเศียรรัง                  ดังดอกปทุมา
หัตถ์ทั้งสองประคองเศียร                                  นั่งไหว้เวียนแต่ซ้าย                 ย้ายไปหาขวา
ไหว้มุนีนาถพระศาสนา                                    พุทธังธัมมังสังฆา                    ไหว้อาจารย์   
ไหว้คุณศีลาพระบารมี                                        เวลาป่าฉะนี้                               ไหว้พระคุณท่าน

ครุฑยักษ์ปักษามาพยาบาล                                ศรัตรูหมู่มาร                             ขอให้หลบหลีกหนี
ไหว้จักรวรรดิฟ้าครอบ                                       ไปทั่วทุกชั้นขั้นขอบ                รอบพระโลกี

                โนราบางคณะเมื่อกล่าวบทกาศครูจบแล้ว  โนราใหญ่จะร้องบทที่ว่าด้วยประวัติความเป็นมาและขั้นตอนการจัดพิธีกรรมโนราโรงครูเรียกว่า  “บทบาลีหน้าศาล”  จากนั้นร้องเชิญครู  โนราใหญ่และผู้เข้าร่วมพิธีจะพร้อมกันกราบครูแล้วโนราใหญ่รำ  “ถวายครู”  คือร่ายรำด้วยบทต่าง ๆ ของโนราเพื่อบูชาครู  และ  “จับบทตั้งเมือง”  (โนราบางคณะจะจับบทตั้งเมืองในเข้าวันพฤหัสบดี)  ซึ่งกล่าวถึงการจับจองพื้นที่โรงโนราเป็นกรรมสิทธิ์  โดยมีตำนานว่า  เมื่อครั้งขุนศรีศรัทธารำโนราถวายพระสายฟ้าฟาด  พระองค์ได้ประทานเครื่องต้นให้เป็นเครื่องแต่งตัว  และประทานแผ่นดินให้ตั้งโรงซึ่งเปรียบเทียบเสมือนว่าเป็นเมือง ๆ หนึ่งของโนรา  โดยเหตุดังกล่าวโนรารำโรงครูที่ไหนจะต้องร้องบททำพิธีตั้งเมืองทุกครั้งพิธีจะใช้ขันทองเหลืองใบใหญ่ที่เรียกว่า  “แม่ขัน”  คว่ำลงกลางโรง  เอาผ้าขาวปูทับ  ใต้ขันมีข้าว  3  รวง  ใบเฉียงพร้า  ใบหมากผู้  หญ้าคา  หญ้าเข็ดมอน  มัดเข้าด้วยกัน  แล้วเอามีดโกน  หินลับมีด  เงินเหรียญ  1  อัน  และเทียนชัยใส่รวมเอาไว้  โนราใหญ่จะใช้เท้าขวาเหยียบขันแล้วรำบทต่าง ๆ ตั้งแต่บทครูสอน  บทสอนรำ  และบทตั้งเมือง  ดังตัวอย่างบทตั้งเมืองตอนหนึ่งว่า         

                                                พ่อตั้งสิ้นตั้งสุด                                    ตั้งพวกมนุษย์ไว้ใต้หล้า
                                 ตั้งหญิงคนชายคน                                              ได้เป็นพืชเป็นผลสืบต่อมา
                                ได้ตั้งนางเอื้อยเป็นเจ้าเท่                                    เสร็จแล้วตั้งนางเอเป็นเจ้านา
                                 พ่อตั้งนายคงเป็นเจ้าแดน                                  ตั้งนายไกรพลแสนเฝ้ารักษา
                                พ่อตั้งอาทิตย์ดวงพระจันทร์                              ตั้งปีตั้งเดือนตั้งคืนวันถัดกันมา
                                ไหว้ท้าวอาทิตย์โคจร                                          ได้ตั้งเมืองอุดรบิญจา
                                เขอเมืองของพระองค์                                        นับได้ห้าพันวา
                                ตรงนี้แปเมืองราชา                                             นับไว้ได้ห้าโยชน์ปลาย
                                พวกจีนไทยแขก                                                  จ่ายแจกไปทั่วพาวาย
                                ตั้งร้านค้าขาย                                                        ร้องถวายพระพรแจ้วแจ้ว

          หลังจากรำบทตั้งเมืองแล้วก็ถือว่าเป็นเสร็จพิธีในวันแรก  คณะโนราจะช่วยกันยกเครื่องสังเวย  เทริด  หน้าพรานหน้าทีสี ฯลฯ  ไปว่างไว้บนศาลหรือพาไล  เพื่อทำพิธีเซ่นไหว้ในวันรุ่งขึ้น  จากนั้นจะเป็นการำทั่วไปของคณะโนราเพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้มาร่วมพิธีและชาวบ้าน