ธรรมเนียมนิยมในการเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์
ธรรมนิยมของการเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์น่าสนใจไม่แพ้เพลงพื้นบ้านอื่น ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเสมือน
ภาพสะท้อนความเป็นพื้นบ้านในแง่มุมต่าง ๆ ที่เรายังไม่เคยสัมผัสหรือสัมผัสแล้วแต่ยังไม่ถึงแก่นแท้ของมัน
ธรรมเนียมนิยม
ของการเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์แยกกันกล่าวให้ชัดเจนเป็น ๕ ประการดังนี้คือ
- วันเล่น เพลงเรือแหลมโพธิ์จะเล่นจริง ๆ ก็เฉพาะในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑อันเป็นวันชักพระ
เพียงวันเดียวเท่านั้น
หมดวันก็สิ้นสุดการเล่นกันในรอบปี ส่วนก่อนหน้าวันชักพระจะมีซ้อมเล่นกันทั่วไป
ตั้งแต่วันเดือน ๑๑ เริ่มแล้ว และค่อย ๆ มากขึ้น ๆ จนกระทั่งมากที่สุดในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ อันเป็นวันออกพรรษา
ดังคำบอกเล่า ของนายเฮด แก้วกุลนิลที่ว่า “.....ยิ่งคืน ๑๕ ค่ำ คนเหมือนใบไม้” ดังกล่าวแล้ว
- สถานที่เล่น การเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์นั้นมีจุดที่นัดพบกันจุดสำคัญคือแหลมโพธิ์อันเป็นจุดหมาย
ปลายทางที่เรือพระทุกลำมาหยุดพักเพื่อถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ที่มากับเรือพระแล้วประกอบพิธีกรรม
ทางศาสนา ที่แหลมโพธิ์จึงเป็นสถานที่ที่เพลงเรือทุกลำและจากทุกแห่งในวันนั้นจะต้องขึ้นไปพบกันร้องเล่นเพลงเรือ
จนกระทั่งเสร็จพิธีพระ อัญเชิญเสด็จพระกลับวัดเรือพระบางวัดอาจไม่กลับวัดเลยทีเดียวก็จะพากันไปต่อที่หาดหอย
ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งปากครองอู่ตะเภาทางทิศตะวันตกของแหลมโพธิ์ไม่ไกลมากนัก ที่หาดหอยจึงเป็นสถานที่เล่นเพลงเรือ
อีกแห่งหนึ่งที่รองลงไปจากที่แหลมโพธิ์ ที่ว่ารองลงไปก็เพราะว่าหาดหอยไม่ใช่สถานที่เรือพระจะต้องนัดกันไปพบกัน
ทุกำลำเหมือนอย่างที่แหลมโพธิ์นั่นเอง แต่กล่าวกันว่านอกจากที่แหลมโพธิ์แล้ว ที่หาดหอยนี่แหละเล่นเพลงเรือ
แหลมโพธิ์สนุกนัก
- วิธีเล่น ธรรมเนียมนิยมที่เกี่ยวกับวิธีเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์นี้มีหลายประการด้วยกันคือ
- เพลงเรือแหลมโพธิ์ไม่เป็นเพลงปฏิพากย์ ไม่มีการเล่นโต้ตอบกันระหว่างคณะ นายดำ มณีภาค
อายุ ๙๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๗) อดีตแม่เพลงคนหนึ่งเล่าถึงเรื่องการเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์ให้ฟังสรุปได้ว่า
“การเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์ไม่เจาะจงถึงใครคนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะว่ากราดไปทั่ว ๆ จึงไม่มีการโต้ตอบ
ลักษณะปากต่อปาก คำต่อคำ อย่างเรือพระลำหนึ่งมีเรือยาวชักลากไป ๔-๕ ลำ เรือทั้ง ๔-๕ ลำ ต่างก็ว่าเพลงของตัวเองไป เพลงลำใครก็นั้นแต่ก็สนุก เมื่อพบลำอื่นก็จะว่าแข่งเสียงกัน ไม่โต้กัน”
- เพลงเรือแหลมโพธิ์ที่เล่นในเรือ ซึ่งก็เป็นเรือยาวชักเรือพระนั่นเอง เรือยาวลำใหญ่ ๆ จุผีพายได้ถึง ๒๕ คน แต่ที่ไม่เป็นเรือยาวซึ่งมีผีพายแค่ ๔-๕ คนก็มี การเล่นในเรือนี้เริ่มต้นตั้งแต่เริ่มชักลากเรือรพระออกจากหน้าวัด จนถึงแหลมโพธิ์ เรือพระวัดใดอยู่ใกล้แหลมโพธิ์ก็มีเวลาอยู่ในเรือน้อยกว่าเรือพระที่วัดอยู่ไกล แล้วจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่การเล่นเพลงจะขึ้นไปเล่นบนบกด้วย นั่นคือเมื่อชักพระมาถึงแหลมโพธิ์แล้ว ช่วงเวลาที่จะเสร็จถวายภัตตาหารเพลพระและพิธีทางศาสนา เป็นช่วงที่เพลงเรือทุกคณะจะขึ้นมาเล่นสนุกกับบนแหลมโพธิ์ เป็นช่วงการเล่นเพลงที่สนุกไปอีกแบบหนึ่งไม่แพ้การเล่นในเรือ
- ไม่มีเครื่องดนตรีใด ๆ ประกอบการเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์ ไม่มีฉิ่ง กรับหรือเครื่องให้จังหวะ ไม่มีแม้แต่เสียงปรบมือ มีก็แต่เสียงพายที่จ้ำลงในน้ำพร้อม ๆ กันเท่านั้นเพลงที่เล่าถึงประวัติ เพลงชมความงาม การพายก็มักจะพายจังหวะช้า ๆ เพลงเสียดสีสังคม เพลงสะท้องสภาพสังคม เพลงสนุกตลกขบขัน ก็จะลงจังหวะพายเร็ว ๆ ทำให้เกิดความสนุกสนานคึกคัก
- การเริ่มเล่นเพลงเรือแหลมโพธิ์ก็ไม่ต้องไหว้ครู จะเริ่มต้นเพลงตรงไหนอย่างไรก็ได้ ในจำนวน ๕๕ เพลงที่เก็บได้ขณะนี้ พบเพียงเพลงเดียวที่ขึ้นต้นเหมือนกับการไหว้ครู คือเพลง “ชักพระเกี้ยวสาว” ของนายไข่ สุขสวัสดิ์ อายุ ๖๖ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๘) เป็นผู้แต่งและเป็นแม่เพลงเอง ดังเนื้อร้องที่ว่า
มือข้าทั้งสองยกประคองขึ้นตั้ง
ยกขึ้นเหนือเศียรรั้งตั้งความวันทา
ไหว้พระพุทธพระธรรมได้จำกายา
ทุกค่ำเวลาวันทาชุลี |