รูปแบบกลอนเพลงเรือแหลมโพธิ์ กลอน ๔ กลอนเพลงเรือแหลมโพธิ์
ตัวอย่าง การส่งสัมผัสระหว่างบทก็เช่นเดียวกับกลอน ๔ หรือกลอนทั่วไป คือมีตัวส่งตัวรับแต่เมื่อไปเข้ารูปแบบเพลงเรือแหลมโพธิ์แล้ว ทำให้ดูเหมือนว่า กลอนเพลงเรือแหลมโพธิ์นั้นคำท้ายกลอนผัมผัสกันเป็นคู่ ๆ แต่ที่จริงแล้วจะมีสัมผัสเหมือนกลอน ๔ ทุกประการ ดังนี้ กลอน ๔ กลอนเพลงเรือแหลมโพธิ์
ตัวอย่าง เมืองเราฉงนน้ำฝนมีกรด |
แข่งเรือยาว ที่มา : http://www.khlong-u-taphao.com/index.php?file |
รูปแบบเพลงเรือแหลมโพธิ์ดังกล่าวเป็นรูปแบบปกติ แต่บางครั้งก็พบว่ามีวรรคพิเศษนำมาข้างหน้าก่อนเพื่อเสริมความกลอนจริงในเพลง บางเพลงอาจมาทำเช่นนี้กับเฉพาะบางกลอนเท่านั้น แต่บางเพลง อย่างเช่นเพลง “สังหรี” ของนายเชือน แก้วประกอบ มีวรรคพิเศษนี้นำทุกกลอนตลอดเพลง ตัวอย่างเช่น และบางครั้งก็อาจจะเป็น จังหวะหน้า ๒ คำ จังหวะหนัง ๓ คำ เช่น “หายแน่ หายแน่นอน” หรือไม่ก็จะมีเสียงกระทุ้งระหว่างวรรคก็ได้เช่น “แลต๊ะ อึ๊ น่าหรอย” หรือ “อย่าแค็ก บ่าวเหอ อย่าแค็ก” คำว่า อึ๊ หรือ บ่าวเหอ ล้วนแต่เป็นเสียงกระทุ้งให้คำรับเผ็ดมันมีรสชาติเข้มข้นทั้งนั้น จากการศึกษาเพลงเรือแหลมโพธิ์ทั้งหมดเท่าที่เก็บได้ในขณะนี้จำนวน ๕๕ เพลงพบว่ามีเพลงที่ไม่ได้คำรับมา ๔ เพลง มีคำรับ ๕๑ เพลง คำรับทั้งหมด (ที่ไม่ซ้ำกัน) รวม ๔๓ คำ คำรับที่ใช้มากที่สุดคือ “น้องนั่นแหล้ สาวนั่นแหล้ จำนวน ๕ เพลง “งามแล้ว สวยแล้ว” กับ “เออโถก” อย่างละ ๓ เพลง |