จุดประทัดเชิดสิงโตวันตรุษจีนเพื่อนำโชค ในอดีตมีคนหัวใสนำดินระเบิดไปบรรจุในบ้องไม้ไผ่เล็ก ๆ แล้วจุด เสียงไม้ไผ่ระเบิดก็ดังสนั่นหู เด็กเล็กได้ยินก็ร้องจ้า บรรดาสุนัขและสัตว์เลี้ยงทั้งหลายต่างพากันกลัวเสียงประทัดวิ่งหนีกันได้ ทำให้มีคนคิดว่าเสียงดังโป้งป้างของประทัด น่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนได้ ซึ่งเหนียนคำนี้เป็นเสียงจีนกลาง จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า นี้ แปลว่า ปี คนจีนโบราณเชื่อว่าช่วงสิ้นปีที่อากาศหนาวเย็นจัดคนไม่สบายกันมาก เพราะเจ้าตัวเหนียน ออกมาอาละวาด การจุดประทัดเสียงดังน่าจะไล่เจ้าตัวเหนียนและโรคภัยไข้เจ็บ ให้ตกใจกลัวหนีไปได้ แล้วต่อมาธรรมเนียมนี้ก็ปรับไปว่า จุดประทัดให้เสียงดัง ๆ นี้จะเรียกโชคดีให้มาหา บ้างก็ว่า เพื่อให้สะดุดหูเทพเจ้า ท่านจะได้มาช่วยคุ้มครอง ส่วนการเชิดสิงโตวันตรุษจีน ที่บางท้องที่จัดเป็นพิธีแห่มังกรใหญ่โต ธรรมเนียมน ี้มีความเป็นมาอย่างไร จำได้ว่าเคยเขียนเรื่องการเชิดสิงโตไว้ในตอนความรู้จากคำ...สิงห์ ปัจจุบันอยู่ในหนังสือขุมทรัพย์ความรู้ซ่อนอยู่ในคำจีน โดยคนจีนเรียกการแสดงเชิดสิงโตว่า ไซ่จื้อบู่ แปลง่าย ๆ ว่า ระบุลูกสิงโต จัดอยู่ในหมวด การแสดงสวมหน้ากากสัตว์ จากบันทึกของราชวงศ์เหนือ...ใต้ (พ.ศ. ๘๕๐ - ๑๑๓๒) เมื่อชาวบ้านในมณฑลกวางตุ้ง มีการแสดงเชิดสิงโตเพื่อไล่ผีที่เชื่อว่า มาลงกินผู้ชายและสัตว์เลี้ยง ก่อเกิดเป็นความเชื่อว่า เชิดสิงโตช่วยไล่ภูตผีปีศาจได้ ก็เลยเข้าคู่กันเหมาะมากกับการจุดประทัด วันตรุษจีน การแห่มังกร ก็เริ่มจากในสมัยราชวงศ์จิ๋นหรือฉิน (พ.ศ. ๒๕๔ - ๓๓๙) จัดเป็นการแสดงเล็ก ๆ แล้วมาจัดเป็นโชว์ใหญ่ที่สวยตระการตาในสมัยราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ. ๓๓๗ - ๗๖๓) โดยเริ่มต้นจะมาจากตำนานปลาหลีฮื้อกระโดดข้ามประตูสวรรค์ก็จะกลายเป็นปลา มังกรมีฤทธิ์เดช โดยปลามังกรนี้ คือสัตว์ยิ่งใหญ่มีพลังอำนาจ ใครได้พบได้ชมก็จะได้รับพลังช่วยเสริมให้เจ้าตัวโชคดีทำมาหากิน ีได้ผลบริบูรณ์ แต่เนื่องจากทั้งการเชิดสิงโตและแห่มังกรนี้ ผู้แสดงต้องมีความสามารถพิเศษในเชิงกายกรรมต่อตัว การสมดุลตัวที่สุดของการเชิดสิงโตคือการได้ซองอั่งเปา สุดยอดของการแห่มังกรคือ การต่อตัวขึ้นไปเพื่อหยิบซองอั่งเปาบนไม้สูงที่เมื่อทำได้ ความหมายของการได้ซองอั่งเปานี้คือ การจะได้โชคดีกันถ้วนหน้าตลอดปีทีเดียว(จุดประทัดเชิดสิงโต จุดประทัดเชิดสิงโตเพื่อนำโชค ตรุษจีน gungold.com) |
บางตำนานก็ว่ามีในสมัยราชวงศ์ถัง บางตำนานก็ว่าเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าเคี่ยนล่งกุนแห่งราชวงศ์เช็งเฉียว วงศ์นี้เองที่เปลี่ยนชื่อประเทศเงาะโตลีเป็นประเทศแมนจูเรีย พระเจ้าเคี่ยนล่งกุนองค์นี้เป็นผู้ที่มีความเก่งกล้าสามารถมาก วันหนึ่งขณะที่ออกว่าราชการ ได้มีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง รูปร่างคล้ายหมาจูขนาดใหญ่เหาะมาจากทิศตะวันออก และเหาะลงมาหน้าที่นั่ง ทำอาการกัมหัวคล้ายถวายความเคารพ 3 ครั้ง แล้วก็เหาะกลับไปตามทางเดิน
|
การเล่นเชิดสิงโตอย่างที่พวกญวนเอาเข้ามาเล่นในเมืองไทยนั้นต้นตำราเดิมพวกญวนก็เอามาจากจีนอีกต่อหนึ่ง ในเมืองจีนนั้นพวกชายฉกรรจ์อกสามศอกที่ใจคอกล้าหาญ มักจะชวนกันหัดวิชามวยปล้ำหรือการบำรุงกำลังให้เข็มแข็ง พอถึงตรุษจีนก็คุมกันเที่ยวเล่นประลองกำลังอย่างที่เรียกกันว่า “พะบู๊” ให้คนดู กล่าวกันว่าในสมัยก่อนนั้นสำนักสอนวิชามวยจีนมีอยู่ในมณฑลกวางตุ้งมาก และว่าการเชิดสิงโตนี้เป็นการละเล่นดั้งเดิมของมณฑลนี้มาก่อน และที่จัดให้มีการเชิดสิงโตในวันตรุษจีนก็เป็นการโฆษณาของสำนักเรียนอย่างหนึ่ง คือเป็นการชักจูงให้คนศรัทธามาเป็นศิษย์ในสำนักของตนกล่าวกันอีกทางหนึ่งว่า กบฏบ๊อกเซอร์หรือกบฏนักมวยซึ่งได้ก่อการกำเริบขึ้นในเมืองจีนเมื่อ พ.ศ. 2443 วัน ก็คือพวกเล่นเชิดสิงโตดังกล่าวนี้เอง |