ภายในวิหารที่สร้างคลุมรอยเท้าบนพื้นหินที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นรอยเท้าหลวงพ่อทวด
 ก่อนท่านหายตัวจากวัดไปโดยไร้ร่องรอย

   
    ชีวประวัติของหลวงพ่อทวด(ต่อ)    
   

  ในหนังสือเพลาเรื่องกัลปนาวัดพะโคะกล่าวว่าเขาพะโคะเดิมชื่อเขาภีพัชสิง
หรือพิเพชรสิงต่อมามีการสร้างวิหารและสร้างรูปพระโคะหรือพระโคตรมะ 
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์  จากนั้นมาชาวบ้านจึงเรียกกันว่าเขาพะโคะ
  บริเวณรอบเขาพะโคะเป็นชุมชนใหญ่มาแต่สมัยโบราณ  เขาที่อยู่ต่อเนื่องจาก
เขาพะโคะคือเขาคูหา  ซึ่งมีหลักฐานของการขุดเจาะถ้ำเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม
เนื่องในศาสนาฮินดู  มีท่าเรือที่สามารถติดต่อกับชุมชนรายรอบทะเลสาบและ
ปากน้ำทางทะเลได้โดยไม่ยากนัก  อยู่ในรัศมีไม่เกินหนึ่งถือสองกิโลเมตร
ใกล้เคียงกับวัดพะโคะ  บริเวณนี้มีการอยู่อาศัยสืบเนื่องจากเมืองสทิงพาราณสี
ในตำนานช่วงหลังพุทธศตวรรษที่  ๑๖-๑๙  ลงมา  และกลับมารุ่งเรือง
ในสมัยสมเด็จเจ้าพะโคะอีกครั้ง
   เนื่องจากบ้านเมืองแถบใกล้ชายฝั่งทะเลนี้ถูกโจมตีจากโจรสลัดมลายูหลายครั้ง
 วัดพะโคะและชุมชนโดยรอบก็เป็นแห่งหนึ่งที่ถูกปล้นและเผาบ้านเมืองครั้งใหญ่
 มีบันทึกไว้ว่าราวปลายสมัยสมเด็จพระนเรศวรบ้านเมืองระล่ำระสายไม่สามารถ
ฟื้นตัวได้  ต่อมาเจ้าอาวาสวัดพะดคะหรือหลวงพ่อทวด  ซึ่งเคยอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา
และน่าจะเป็นพระสงฆ์ผู้มีบารมีในฐานะพระผู้ใหญ่  จึงขอพระราชทานการ
บูรณะวัดครั้งสำคัญในสมัยของพระเอกาทศรถ  เมื่อ  พ.ศ.  ๒๑๕๓
 หรือในอีกราวกว่าสิบปีต่อมา

   
   
   
   
   

 รูปปั้นหลวงพ่อทวดเดินธุดงค์ เป็นหนึ่งในรูปปั้นที่นิยมกัน
นอกจากรูปปั้นหรือรูปหล่อในท่านั่งสมาธิ   ที่มา : วลัยลักษณ์ ทรงศิริ.2556,39

 

   
   

พระมหากษัตริย์ที่กรุงศรีอยุธยาพระราชทานพระบรมราชูทิศกัลปนาวัดต่าง ๆ
 ตั้งแต่บริเวณปากทะเลสาบสงขลาที่หัวเขาแดงจนถึงเขาพังไกร  ทั้งหมดราว  ๖๓  วัด 
ขึ้นกับวัดพะโคะ  จนกลายเป็นประเพณีที่วัดต่าง ๆ  ในแถบนี้มักจะขอพระราชทาน
พระมหากษัตริย์ทรงพระราชทานที่ดิน  ไร่นา  อันเป็นของหลวงให้วัดวาอารามเพื่อ
บำรุงพระพุทธศาสนารวมทั้งผู้คนเพื่อปรนนิบัติพระสงฆ์และทำไร่ทำนา
 การกัลปนาเหล่านี้ถูกบันทึกและยืนยันในสิทธิของวัดเหลือที่ดินและผู้คน  ปรากฏอยู่
ในเพลาพระตำรา  ซึ่งมีการเก็บรักษาสืบทอดกันอีกหลายฉบับ
                เรื่องราวของหลวงพ่อทวดที่วัดพะโคะจึงสัมพันธ์กับการกัลปนาเพื่อบำรุงวัด
และคณะสงฆ์ของทางกรุงศรีอยุธยาอันมีสาเหตุเนื่องมาจากป้องกันการโจมตี
ของกลุ่มโจรสลัดมลายู
                อีกสาเหตุหนึ่งสันนิษฐานว่า  บริเวณคาบสมุทรสทิงพระเป็นเขตต่อแดนระหว่าง
อำนาจทางฝ่ายกรุงศรีอยุธยากับปาตานี  ซึ่งเป็นรัฐิสลามและมีความสำคัญในฐานะ
เมืองท่าทางการค้าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสงขลาและนครศรีธรรมราชจึงมีเหตุวุ่นวาย
เกิดขึ้นในบ้านเมืองเป็นประจำจากการรบพุ่งแย่งชิงอำนาจทางการเมืองที่เชื่อมโยง
กับฐานทางเศรษฐกิจของขุนนางและตระกูลใหญ่ต่าง ๆ  ภายในด้วย

   
   
MAIN
ชีวประวัติของหลวงพ่อทวด
การเผยแผ่ศาสนาของหลวงพ่อทวด      
   

  HOME