ตำนานแม่โพสพของภาคกลางและภาคใต้
บางตำนานเล่าว่า แม่โพสพเป็นเทวีแห่งข้าว มีพาหะเป็นปลากรายทองและปลาสำเภา ในวันหนึ่ง
ที่เมืองไพสาลีกลางสโมสรสันนิบาตมนุษย์ได้ปรึกษากันว่าระหว่างพระพุทธเจ้าและแม่โพสพ
ใครมีคุณมากกว่ากันที่ประชุมต่างกราบทูลว่าคุณของพระพุทธเจ้าใหญ่กว่าแม่โพสพ และพระ
เพชรฉลูกรรณได้ฟังดังนั้น ก็ข้องใจว่ารักษามนุษย์อยู่ มนุษย์ไม่เห็นความดีจึงทรงปลากรายหนี
ไปยังป่าหิมพานต์เขาคชกูฏ เมื่อแม่โพสพจากไปก็เกิดความอดอยากให้ขึ้นในโลกมนุษย์ ทำไร่
ไถนาไม่มีข้าวมีแต่แกลบมนุษย์จึงชวนกันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้พระมาตุลีไปเชิญ
นางกลับ พระนางตุลีตามไปถึงเขาทบกันก็ไปไม่ได้ จึงใช้ให้ปลาสลาดไปตามต่อจนพบ
ปลาสลาดได้อ้อนวอนขอให้นางกลับคืนโลก นางตอบว่า “อยู่ที่นี่เราสบาย ถ้าจะไปใจแม่หาย
เพราะเขาไม่รู้บุญคุณ แม่จะให้แต่เมล็ดข้าวไปดูแลฝูงคน เมื่อเก็บนึกถึงเรา เราจะไปปีละหน
ตรวจดูผู้คน เก็บเกี่ยวแล้วให้ทำขวัญ” นางได้มอบเมล็ดข้าว 7 เมล็ด (บ้างก็ว่า 9 เมล็ด) ไป
ทำพันธุ์ พระเพชรฉลูกรรณให้แม่เหล็ก 1 อันสำหรับตั้งพร้า นางยังสั่งด้วยว่ามนุษย์ทำไร่ไถนา
เมื่อข้าวใกล้สุกก็ให้จัดพิธีทำขวัญให้แต่งด้วยขวัญข้าว และด้วยที่ปลาสลาดเป็นผู้บอกทาง
ที่นางซ่อนแก่พระมาตุลี นางจึงสั่งนำปลาสลาดมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยด้วย ปลาสลาดก็ลา
กลับมาเล่าให้พระมาตุลีฟังตามคำแม่โพสพ พระมาตุลีรับเมล็ดข้าวแล้วเหาะกลับ ใน
ระหว่างทางพระมาตุลีจึงหยุดพักอาบน้ำนกกระจาบได้แอบลักเมล็ดข้าวสองเมล็ดบินหนี
ข้าวสองเมล็ดได้ตกลงมายังโลกมนุษย์กลายเป็นข้าวผี พระมาตุลีนำเมล็ดข้าวพันธุ์ข้าว
ถวายพระพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าจึงเรียกมนุษย์มาพร้อมกัน ทรงอธิบายให้มนุษย์ฟัง และ
แจกเมล็ดพันธุ์ข้าวให้แก่มนุษย์ ตั้งแต่นั้นมาเมื่อข้าวใกล้สุกมนุษย์จะทำขวัญเชิญแม่โพสพ
เป็นประจำทุกปี
Next |
|